Page 75 - kpiebook62010
P. 75
68
(4) การควบคุมและกักขังสัตว์
(5) การฆ่าสัตว์
(6) การนำสัตว์มาให้เป็นรางวัล
(7) การใช้สัตว์เพื่อการแสดงหรือโฆษณา
(8) การอย่างอื่นตามความเหมาะสมแก่สัตว์ ตามชนิด ประเภท ลักษณะ และอายุของสัตว์
นั้นๆ”
โดยมีพิจารณาประเด็นนี้ในการประชุมครั้งที่ 6 วันที่ 4 ธันวาคม 2552 ที่ประชุมเห็นว่า
โดยหลักการควรต้องกำหนดชนิดของสัตว์ที่จะได้รับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ตามร่างพระราชบัญญัตินี้ เพราะคงไม่
สามารถนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปใช้กับสัตว์ทุกชนิดได้ โดยเฉพาะกรณีสัตว์เร่ร่อนไม่มีเจ้าของ โดยที่ประชุมฯ
เห็นว่า อาจจะใช้หลักเกณฑ์ในเรื่องนี้สำหรับสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจและสัตว์ป่าซึ่งไม่ได้เป็นสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่า
คุ้มครองก่อน เพื่อให้หลักเกณฑ์ดังกล่าวสามารถใช้บังคับได้ โดยกำหนดหลักการว่าการจัดสวัสดิภาพสัตว์ควรต้อง
คำนึงเรื่องอะไรบ้าง สำหรับรายละเอียดให้ไปกำหนดในอนุบัญญัติ
ในส่วนของการดำเนินการที่ต้องจัดให้มีการจัดสวัสดิภาพสัตว์นั้น ที่ประชุมเห็นว่าการดำเนินการ
ตามร่างมาตรา 27 ในบางกรณีไม่จำเป็นต้องมีการจัดสวัสดิภาพแก่สัตว์ เช่นการฆ่าสัตว์ตาม (5) นอกจากนี้
การกำหนดว่าการดำเนินการใดบ้างที่ต้องจัดให้มีการจัดสวัสดิภาพแก่สัตว์ควรไปกำหนดในอนุบัญญัติ เพราะอาจมี
การดำเนินการในบางเรื่องที่ควรต้องกำหนดให้มีการจัดสวัสดิภาพสัตว์เป็นการเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้แล้ว
อนึ่ง ยังมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องเจ้าของสัตว์ผู้มีหน้าที่จะต้องจัดสวัสดิภาพสัตว์ กล่าวคือ
เดิมนั้นต้นร่างพระราชบัญญัตินี้ ให้คำนิยามคำว่า “เจ้าของ” หมายความว่า “เจ้าของกรรมสิทธิ์และ
ให้หมายความรวมถึงผู้ครอบครองในกรณีสัตว์ที่ไม่ปรากฏเจ้าของหรือไม่สามารถหาเจ้าของได้ ให้หมายความ
รวมถึงผู้เลี้ยงและผู้ควบคุมด้วย” ซึ่งจะสังเกตเห็นว่า ขอบเขตความเป็นเจ้าของของสัตว์นั้นรวมกรณีของการที่
สัตว์ไม่ปรากฏเจ้าของหรือไม่สามารถหาเจ้าของได้ ให้หมายความถึงผู้เลี้ยงและผู้ควบคุมด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งที่ 2 ที่ประชุมเห็นควรตัดถ้อยคำ “ในกรณีสัตว์ที่ไม่ปรากฏ
เจ้าของหรือไม่สามารถหาเจ้าของได้ ให้หมายความรวมถึงผู้เลี้ยงและผู้ควบคุมด้วย” เนื่องจากเห็นว่าไม่ควร
กำหนดให้รวมถึงสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของด้วย เพราะจะเป็นการผลักภาระให้ผู้ที่มีเมตตาในการเลี้ยงดูหรือให้อาหารแก่
สัตว์เร่ร่อนให้ต้องถือว่าเป็นเจ้าของสัตว์และต้องดำเนินการจัดสวัสดิภาพให้แก่สัตว์ดังกล่าวด้วย ซึ่งในกรณีดังกล่าว
กรมปศุสัตว์ควรเป็นผู้เข้าไปดูแลในเรื่องการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้แก่สัตว์เร่ร่อน และในการประชุมครั้งที่ 8 ได้มีการ
ทบทวนนิยามของคำว่าเจ้าของสัตว์อีกครั้ง โดยผู้แทนจากกรมปศุสัตว์ได้ชี้แจงว่าผู้ให้อาหารแก่สัตว์ด้วยความ
เมตตาไม่ถือเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสัตว์ตามความหมายของบทนิยามนี้
ดังนั้นแล้ว นิยามของ “เจ้าของสัตว์” ตามพระราชบัญญัตินี้ จึงหมายความถึงเจ้าของกรรมสิทธิ์
รวมถึงผู้ครอบครองสัตว์หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแล ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือผู้ซึ่งได้
รับมอบหมายจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ให้ดูแลด้วย
ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บังคับของพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557