Page 88 - kpiebook62010
P. 88

81






               ร้ายแรงมีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง มิได้มีการกระทำอันแสดงถึงความโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษแต่

               ประการใด จึงไม่เข้าลักษณะการกระทำโดยทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)

                     
   
   คำพิพากษาฎีกาที่ 1654/2532 จำเลยยิงผู้ตายและผู้เสียหายต่อเนื่องกันทีละคนโดย ไม่มี

               พฤติการณ์ที่เป็นการทารุณโหดร้ายแต่ละคน แม้จะมีผู้ถึงแก่ความตายเพราะถูก จำเลยยิงถึง 7 คน ก็ยังถือ ไม่ได้ว่า
               เป็นการกระทำทารุณโหดร้าย


                     
       การทุบตีจนตาย หากไม่มีพยานหลักฐานอื่นว่าจำเลยกระทำการทารุณโหดร้ายผู้ตายอย่างไรบ้าง
               เชื่อว่าจำเลยมีเจตนากระทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที


                     
   
   คำพิพากษาฎีกาที่ 5865/2543 ผู้ตายถูกไม้ตีที่ศีรษะจนกระโหลกแตกละเอียดและยุบ และ
               ที่เนินดินจอมปลวกเหนือศพผู้ตายมีรอยยุบลักษณะถูกศีรษะคนกระแทก แต่ไม่ได้ความชัดแจ้งว่าจำเลยได้กระทำ

               การทารุณโหดร้ายผู้ตายอย่างไรบ้าง เพราะโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็น การที่จำเลยจับศีรษะผู้ตายกระแทกกับ
               เนินดินจอมปลวกและใช้ไม้ตีศีรษะผู้ตายจนกระโหลกแตกละเอียด น่าเชื่อว่าจำเลยกระทำไปโดยมีเจตนาจะทำให้
               ผู้ตายถึงแก่ความตายในทันทีเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนเท่านั้น มิใช่เพื่อให้ผู้ตายได้รับความเจ็บปวดทรมาน

               จนกระทั่งขาดใจตาย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา 289(5)


                     
       คำพิพากษาฎีกาที่ 6570/2542 สภาพศพผู้ตายมีรอยช้ำที่ขาทั้งสองข้างเนื่องจากถูกของแข็ง
               กระทบกระแทกโดยเฉพาะที่หัวเข่าและหน้าแข้งหลายแห่ง และจำเลยใช้เหล็กยกน้ำหนักทุบตีผู้ตายที่ศีรษะจน
               ผู้ตายถึงแก่ความตาย แต่ไม่ได้ความชัดแจ้งว่า จำเลยได้ทรมานหรือกระทำการทารุณโหดร้ายผู้ตายอย่างไร

               ประกอบกับเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะวิวาทและทำร้ายกันระหว่างจำเลยกับผู้ตาย การที่จำเลยฆ่าผู้ตายจึงไม่เข้า
               ลักษณะเป็นการทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย


                     
       การใช้วิธีฆ่าหลายวิธีจนกว่าจะตาย แต่ถ้าเพื่อจะทำให้ผู้ตายตายในทันทีอย่างรวดเร็ว โดยไม่มี
               พยานหลักฐานอื่นว่าจำเลยกระทำการทารุณโหดร้ายผู้ตายอย่างไรบ้าง ไม่ถือเป็นการฆ่าโดยทารุณโหดร้าย


                     
       คำพิพากษาฎีกาที่ 3576/2530 จำเลยเอายาพิษให้ผู้ตาย 4 คนซึ่งเป็นบุตรของจำเลยกินแล้ว
               ยังใช้ไม้ตีและเอาเชือกรัดคอผู้ตาย ก็ด้วยเจตนาจะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเร็ว ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ตายได้รับความ
               เจ็บปวดทรมาน จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย


                     
       คำพิพากษาฎีกาที่ 1906/2520 จำเลยต้องการฆ่าผู้เสียหายโดยวิธีใช้อาวุธปืนยิงก่อนแต่กระสุน
               ปืนไม่ลั่นจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีกดผู้เสียหายจมน้ำเพื่อให้ตายต่อเนื่องกันไป จำเลยกดผู้เสียหายจมน้ำครั้งแรกผู้เสียหาย

               ต่อสู้หลุดโผล่ขึ้นมา จำเลยใช้ปืนตีศีรษะ 1 ครั้ง แล้วกดลงไปใหม่จนหมดสติ จึงเป็นวิธีธรรมดาทั่วๆ ไปในการกด
               จมน้ำเพื่อให้ตาย เจตนาของจำเลยก็คือต้องการฆ่าผู้เสียหายให้ถึงแก่ความตาย การที่จำเลยกดผู้เสียหายจมน้ำ

               เป็นวิธีการกระทำเพื่อให้ตายอย่างหนึ่งเท่านั้น มิได้กระทำอย่างใดเป็นพิเศษอันจะแสดงให้เห็นว่า จำเลยประสงค์
               จะให้ผู้เสียหายได้รับความลำบากสาหัสก่อนตาย จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยทรมานหรือ
               โดยกระทำทารุณโหดร้าย








                       ปัญหาเกี่ยวกับการใช้บังคับของพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93