Page 69 - kpiebook62015
P. 69

แสดงออก (action) ในความกล้าคิด กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าริเริ่มลงมือท าเพื่อแก้ไขปัญหา
                        และได้ฝึกฝนการคิดวิเคราะห์ สอดคล้องกับองค์ความรู้ด้านศักยภาพของสมาชิกชุมชนอีกด้วย

                                ส าหรับองค์ความรู้ด้านความไว้วางใจ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ภาคสนามให้ความส าคัญนั้น มี
                        ความจ าเป็นต่อการท างานในเชิงบูรณาการความร่วมมือและบูรณาการทรัพยากรที่ประกอบด้วย

                        ภาคส่วนที่หลากหลาย  การเริ่มต้นด้วยการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ เป็นรูปธรรมของการ

                        รับรู้ความร่วมมือในการก้าวเดินสู่เป้าหมาย แต่ในการปฏิบัติแล้วจะเป็นไปตามข้อตกลงนั้น
                        หรือไม่ ย่อมต้องการความไว้วางใจระหว่างกัน นอกจากนี้ โครงการที่ท างานร่วมกันหลายภาค

                        ส่วน ความไว้วางใจต่อกันเพื่อท างานร่วมกันนั้นเป็นสิ่งจ าเป็น ขณะที่ในงานวิชาการไม่มีการ
                        กล่าวถึงความไว้วางใจกันอาจเป็นเพราะเป็นการศึกษาชุมชนที่เป็นหน่วยงานเดียว แต่ไม่ได้

                        หมายถึงการท างานในลักษณะของการขยายวงกว้าง (enlarge) ไปสู่การบูรณาการร่วมกันภาค

                        ส่วนอื่น ๆ ที่ท าให้ความไว้วางใจมีความส าคัญมากขึ้น  ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดความไว้ว่าใจใน

                        การพัฒนาที่น าเสนอโดย LucieLaurian, (2009)
                                องค์ความรู้ที่สังเคราะห์ได้ในงานศึกษานั้น ที่ประกอบด้วยองค์ความรู้ในระดับปัจเจกนั้น

                        สอดคล้องและยืนยันแนวคิดทฤษฎีที่เชื่อว่าการพัฒนาปัจเจกบุคคลหรือสมาชิกชุมชนคือการ
                        พัฒนาผ่านการส่งเสริมความเข้มแข็งของกลุ่มหรือชุมชนด้วย หลักคิดว่าคนเป็นทรัพยากรที่มีค่า

                        และส าคัญที่สุด และจะพัฒนาได้ดีที่สุดด้วยการรวมกลุ่ม การเรียนรู้ร่วมกัน และยึดหลักการ
                        ประชาธิปไตย และสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ต้องเป็นกระบวนการเรียนรู้และการ

                        เปลี่ยนแปลงที่เป็นพลวัตร (dynamic  process)  เป็นองค์รวมและเป็นผลของการบูรณาการ

                        แนวความคิดที่หลากหลายและผ่านการเรียนรู้ของทั้งชุมชนและภายนอกชุมชน (อนุรักษ์ ปัญญา
                        นุวัฒน์ , 2548) และสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาที่ต้องยึดหลักความมีศักดิ์ศรีและศักยภาพ

                        ของประชาชน ยึดหลักการพึ่งตนเองของประชาชน ยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน และ ยึด
                        หลักประชาธิปไตย (เพ็ญศรี ฉิรินัง และ วรสิทธิ์ เจริญพุฒ. 2559,น. 89-99) นอกจากนี้ องค์

                        ความรู้ที่พบจากโครงการปฏิบัติการเสริมสร้างพลังพลเมือง จังหวัดร้อยเอ็ดยังได้สะท้อนให้เห็น

                        อ านาจการปกครองของพลเมืองเช่นที่นักพัฒนาชุมชนได้กล่าวว่าอ านาจรัฐเพียงอย่างเดียวย่อมไม่
                        เพียงพอ ต้องอาศัยอ านาจประชาชน ซึ่งการรวมตัวรวมกลุ่มเพื่อสร้างอ านาจของประชาชนจึง

                        ช่วยพัฒนาให้ชุมชน พื้นที่ หรือ ท้องถิ่น มีความเข้มแข็งขึ้น (strengthening   local

                        organization)  และปลูกฝังประชาธิปไตยในระดับล่างสุด (grass  root  of  democracy)  ให้
                        ประชาชนพลเมืองก็มีความเข้มแข็งขึ้นเช่นกัน  กล่าวได้ว่า “รากฐานของประชาธิปไตยเริ่มที่
                        หมู่บ้าน”และจะเป็นรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระดับชาติต่อไป








                                                               57
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74