Page 76 - kpiebook62016
P. 76
59
ควบรวมบริษัทซึ่งนายเจ วาย ลี (Jay Y Lee) ทายาทของบริษัทซัมซุงได้พยายามผลักดัน แม้จะมีเสียง
คัดค้านจากผู้ถือหุ้น และต่อมาบริษัทซัมซุงก็ได้บริจาคเงินกว่า 17.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่มูลนิธิ
168
ซึ่งมีผู้ที่ใกล้ชิดประธานาธิบดีเป็นผู้ดูแล ทั้งหมดนี้ได้แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ทางผลประโยชน์
ระหว่างฝ่ายการเมืองและกลุ่มธุรกิจ รวมถึงอิทธิพลที่กลุ่มธุรกิจมีต่อฝ่ายการเมืองที่ยังคงเข้มแข็งแม้จะ
มีความพยายามในการปฏิรูป
5. สื่อมวลชน
การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนในเกาหลีใต้ เกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองระหว่าง
กลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะการแทรกแซงจากฝ่ายบริหารในการแต่งตั้งหัวหน้าสถานีโทรทัศน์สาธารณะ และ
ต าแหน่งในคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (Korea Communications Commission) ซึ่งมีอ านาจ
ในการควบคุมเนื้อหาของสื่อมวลชน เพื่อให้บุคคลที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลได้ด ารงต าแหน่งดังกล่าว
นอกจากนี้ การเผยแพร่ภาพ เสียง และสิ่งพิมพ์ ที่ได้รับอนุญาตยังมีจ านวนน้อยรายและมีแนวคิด
อนุรักษ์นิยมเป็นส่วนใหญ่ ผลักดันให้ผู้ที่มีความเห็นแตกต่างต้องหันไปสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์
และการถ่ายทอดผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลได้ขยายการควบคุมการสื่อสารทางเลือกด้วย
การตั้งแผนกควบคุมเนื้อหาทางอินเตอร์เน็ตขึ้นในคณะกรรมการมาตรฐานโทรคมนาคม (Korea
Communications Standards Commission) ซึ่งเป็นฝ่ายตรวจสอบเนื้อหาสื่อของคณะกรรมการ
169
กิจการโทรคมนาคม
การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อยังถูกควบคุมโดยกฎหมายว่าด้วยการหมิ่นประมาท ซึ่งระวางโทษ
จ าคุกถึง 7 ปี และกฎหมายความมั่นคง ที่ห้ามมิให้มีการน าเสนอข่าวสารในทางชื่นชมเกาหลีเหนือ มี
การฟ้องร้องบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ ซังเค ชิมบุน (Sankei Shimbun) ที่ได้วิจารณ์การปฏิบัติ
หน้าที่ของประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ และ มีการเนรเทศนักเขียนชาวเกาหลี – อเมริกัน ด้วยข้อหา
เผยแพร่ข้อความสนับสนุนเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี Freedom House ได้จัดระดับเสรีภาพของ
สื่อมวลชนของเกาหลีใต้ไว้ที่ระดับ “มีข้อจ ากัดในเสรีภาพอยู่บ้าง” (partly free) ด้วยคะแนน 33 จาก
168 Choe Sang-hun and Motoko Rich, As Scandal Roils South Korea, Fingers Point to Mixing of Politics and Business, The
New York Times, January 2, 2017 [online], Available from
https://www.nytimes.com/2017/01/02/world/asia/south-korea-park-geun-hye-samsung.html?_r=1.
169 Jongcheol Kim, op. cit., pp. 97-98.