Page 154 - kpiebook65020
P. 154

115

                                                                                        รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์
                                        โครงการวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้และเครื่องมือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย”


                       5.2 ในกรณีศึกษาครั้งนี้ ผู้จัดท าขอแบ่งกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเป็น 3 ประเภท ได้แก่ (1)  หน่วยงานรัฐ
               (2) ผู้ประกอบการเอกชน (3) ภาคประสังคม โดยผู้จัดท ารวบรวมความเห็นเบื้องต้น ดังนี้

                       (1) หน่วยงานรัฐ

                       กรมการปกครอง

                       กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักในการก ากับดูแลการประกอบธุรกิจโรงแรม
               ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และเป็นผู้รับพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ก ากับดูแล
               การประกอบธุรกิจโรงแรมผ่านผู้ขอใบอนุญาตและผู้จัดการโรงแรม โดยผู้จัดการโรงแรมจะต้องส่งส าเนาทะเบียนผู้

               เข้าพักให้นายทะเบียนโรงแรม (อธิบดีกรมการปกครองหรือผู้ว่าราชการจังหวัด) ทุกสัปดาห์

                       อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันการบังคับใช้พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 เพื่อก ากับดูแลที่พักระยะสั้นที่เปิด
               ให้จองผ่านแฟลตฟอร์มยังคงมีความคลุมเครือแก่ผู้ประกอบการ เนื่องจากพระราชบัญญัติโรงแรม
               พ.ศ. 2547 ไม่ได้ก าหนดค านิยามหรือกฎเกณฑ์ของ “ธุรกิจการเช่าที่พักระยะสั้น” เป็นการเฉพาะ


                       ปัจจุบันมีเพียงค านิยาม “โรงแรม” และ “สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม” หมายถึง สถานที่พักที่มีจ านวน
               ห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกินสี่ห้องและมีจ านวนผู้เข้าพักรวมกันทั้งหมดไม่เกินยี่สิบคน

               โดยหากสถานที่พักใดเป็นไปตามบทนิยามดังกล่าวจะไม่เป็นโรงแรมตามบทนิยามในพระราชบัญญัติโรงแรม และไม่
               ต้องได้รับใบอนุญาตโรงแรม หากปล่อยเช่ารายวันจะมีเงื่อนไขเพียงแค่แจ้งให้นายทะเบียนทราบเท่านั้นดังนั้น ใน
               บางกรณีการเช่ารายวันโดยไม่ต้องขอใบอนุญาตโรงแรมอาจกระท าได้

                                                                                                           13
                       ในส่วนของการปล่อยเช่าในอาคารชุดนั้น กรมการปกครองเคยมี หนังสือที่ มท 030 7.6/15464
               ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นมีข้อหารือกับกรมการปกครองส าหรับ แนวปฏิบัติของการที่เจ้าของห้องชุดสามารถน าห้องชุด

               ในอาคารชุดออกให้เช่ารายวันในลักษณะโรงแรมแก่ชาวต่างชาติและชาวไทยสามารถท าได้หรือไม่นั้น สามารถสรุป
               ความเห็นดังนี้

                            การจะหาที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวส าหรับคน
                              เดินทางโดยมีค่าตอบแทนนั้น ต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนซึ่งเจ้าของห้องชุดจะต้องยื่นค า

                              ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมต่อนายทะเบียน

                            การประกอบธุรกิจโรงแรมในอาคารชุดจะต้องมีการพิจารณาตามพระราชบัญญัติอาคารชุดด้วย
                              ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อสนองความต้องการของประชาชนซึ่งต้องอาศัยในอาคารชุดเดียวกันมี
                              กรรมสิทธิ์ในห้องชุดในอาคารนั้นแยกจากกันเป็นสัดส่วน และสามารถจัดระบบค่าใช้จ่ายการ

                              บ ารุงรักษาและป้องกันได้โดยก าหนดการควบคุมจัดการอาคารชุดให้เหมาะสม เพื่อเป็น


               13
                   “คู่มือการปฏิบัติงานกฎหมายโรงแรม,”  ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 3 ส านักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
               กระทรวงมหาดไทย, จาก http://www2.satun.go.th/files/com_news_law/2019-06_26b856d1c6497b2.pdf, น.169 –
               170.
   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159