Page 25 - kpiebook65020
P. 25

xi


               เกิดขึ้นว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลประทบในระยะยาวหรือเป็นเพียงปัญหาชั่วคราว  รวมถึงระบุหลักฐานและข้อมูล
               เชิงประจักษ์เพื่อสนับสนุนปัญหาที่ต้องการแก้ไข

                       ส่วนที่ 2 ทางเลือกก ากับดูแลการปล่อยเช่าระยะสั้น (Options)  คณะผู้จัดอบรมได้น าตัวอย่าง
               ทางเลือกก ากับดูแลการปล่อยเช่าระยะสั้นผ่านแพลตฟอร์ม ทั้ง 5 ทางเลือก มาปรับเพื่อออกแบบทางเลือก
               ก ากับดูแลที่เรียบง่ายและตรงกับขอบเขตของ พร้อมทั้งเปรียบเทียบแนวทางการก ากับดูแลการปล่อยเช่าระยะ
               สั้นผ่านแพลตฟอร์ม รวมถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ได้ระบุไว้ในส่วนที่ 1 ของแต่ละทางเลือก

                       ส่วนที่ 3 การค านวณต้นทุน-ประโยชน์ เป็นการค านวณต้นทุน-ประโยชน์ในการก ากับดูแลการปล่อย
               เช่าระยะสั้นผ่านแพลตฟอร์มของทางเลือกทั้ง 5 ทางเลือก โดยต้นทุนส าคัญในกรณีนี้คือ “ต้นทุนจากการ
               ร้องเรียนและติดตามแก้ไขปัญหาเดือดร้อนร าคาญ” ด้วยเหตุที่ไม่มีกฎหมายก าหนดผู้รับร้องเรียนเหตุเดือดร้อน
               จากการปล่อยเช่าระยะสั้นอย่างชัดเจน โดยท าการค านวณต้นทุนที่เกิดขึ้นจากผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ว่ามี

               ต้นทุนอะไรบ้าง ต้นทุนต่อหน่วยจ านวนเท่าไหร่ และต้นทุนรวมต่อปีเป็นจ านวนเท่าใด และค านวณประโยชน์ที่
               จะได้รับของผู้มีส่วนได้เสียว่าจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง ประโยชน์ต่อรายต่อครั้งและต่อปีเป็นเท่าใด
                       ส่วนที่ 4 การเปรียบเทียบต้นทุน-ประโยชน์ของการก ากับดูแลแต่ละทางเลือก เป็นการเปรียบเทียบ
               ต้นทุน-ประโยชน์ของการก ากับดูแลแต่ละทางเลือก และจัดอันดับว่าทางเลือกใดที่มีประโยชน์สุทธิมากที่สุด

                       ส่วนที่ 5 สรุปทางเลือกก ากับดูแลการปล่อยเช่าระยะสั้นผ่านแพลตฟอร์ม ผลการค านวณต้นทุน-
               ประโยชน์ ภายใต้ข้อสมมติฐานต่าง ๆ ที่คณะผู้จัดอบรมก าหนดไว้นั้น แสดงให้เห็นว่า ทางเลือก “สภาพ
               ปัจจุบัน (base case)” ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดจากการมีประโยชน์สุทธิสูงสุด


               3. การจัดท าคู่มือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย


                       คณะผู้วิจัยได้ด าเนินการจัดท าคู่มือส าหรับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย เพื่อใช้เป็น
               แนวปฏิบัติและข้อแนะน าส าหรับผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนราชการ และภาคประชาชนที่
               ต้องการจัดท าหรือปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และสามารถน าไปใช้ในหลักสูตรวุฒิบัตรการวิเคราะห์การตรา
               กฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายของส านักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า
               โดยในคู่มือดังกล่าว มีเนื้อหาที่ส าคัญ 3 ส่วน ดังต่อไปนี้


                       ส่วนที่ 1 แนวคิดและทฤษฎีในการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย เนื้อหาในส่วนนี้เป็นการ
               อธิบายถึงแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับหลักการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย ซึ่งจะท าให้ผู้เข้า
               อบรมตามหลักสูตรฯ และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องสามารถท าความเข้าใจถึงเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ในการ
               ตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมายได้อย่างถูกต้อง โดยเนื้อหาในส่วนนี้ประกอบด้วย การอธิบายความรู้

               พื้นฐานว่าด้วยการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมายและการวิเคราะห์ผลกระทบร่างกฎหมาย
               (Regulatory Impact Assessment: RIA) และหลักการวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม

                       ส่วนที่ 2 หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรากฎหมาย   เนื้อหาในส่วนนี้เป็นการ
               อธิบายถึงหลักเกณฑ์ทางกฎหมายของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความจ าเป็นในการตรา
               กฎหมายประกอบด้วย สาระส าคัญของมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

               พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดท าร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562  และ
               กฎหมายล าดับรองต่าง ๆ เช่น แนวทางการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย คู่มือการจัดท า
               รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย รวมถึงหลักเกณฑ์การตรวจสอบเนื้อหาในการตรา
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30