Page 26 - kpiebook65037
P. 26

25



              ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่น�าเอาระบบคุณธรรมมาใช้ ส�าหรับประเทศสุดท้าย

              ในบรรดาชาติอุตสาหกรรมชั้นน�าทั้งหลายที่น�าระบบคุณธรรมมาใช้
              ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1883 (เชี่ยวชาญ อาศุวัฒนกุล,
              2530, น. 44)


                       ภายหลังการลอบยิงประธานาธิบดี James A. Garfield ซึ่งถูก
              เด็กหนุ่มยิงเสียชีวิต สาเหตุเพราะคับแค้นใจในระบบอุปถัมภ์ของราชการ
              ในสหรัฐอเมริกาในยุคนั้น ซึ่งเป็นยุคที่การบริหารงานบุคคลตามระบบ

              อุปถัมภ์ในสหรัฐอเมริกาเสื่อมถอยสุดๆ นับตั้งแต่มีการใช้บริหารงานภาครัฐ
              ตามระบบอุปถัมภ์ (Spoils System) เป็นครั้งแรกในสมัยประธานาธิบดี

              แอนดรูว์ แจ็คสัน (Andrew Jackson 1829-1837) โดยยึดถือแนวคิด
              ส�าคัญ 2 แนวคิด แนวคิดแรกคือ “ถ้าเป็นผู้ชนะแล้ว จะได้ครอบครอง
              ข้าวของของเชลยทั้งหมด (To the victor belong the spoils)” และแนวคิด

              ที่สองคือแนวคิดที่ว่า งานราชการเป็นงานง่ายๆ คนทั่วไปซึ่งมีสติปัญญา
              ปกติทั่วไปก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะปฏิบัติภารกิจ แนวคิดทั้งสองนี้

              รวมกันก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์ในการบริหารงานบุคคลภาครัฐ กล่าวคือ
              เมื่อฝ่ายการเมืองชนะเลือกตั้งเข้ามาเป็นฝ่ายบริหารก็จะมีการปรับเปลี่ยน
              ตัวบุคคลซึ่งด�ารงต�าแหน่งข้าราชการประจ�า โดยน�าทีมงานของตนเองเข้ามา

              และจะมีการเปลี่ยนแปลงข้าราชการประจ�าทุกครั้งภายหลังการเลือกตั้งใหม่
              ซึ่งในระยะยาวจะมีผลท�าให้ประสิทธิภาพการท�างานของระบบราชการโดยรวม

              ด้อยประสิทธิภาพ ภายหลังอสัญกรรมของประธานาธิบดีเจมส์ การ์ฟีลด์
              (James A. Garfield) รองประธานาธิบดีชาร์ลส อาร์เธอร์ (Charles A.
              Arthur) ซึ่งขึ้นด�ารงต�าแหน่งประธานาธิบดีแทนจึงได้ด�าเนินการปฏิรูป

              ระบบบริหารงานบุคคลภาครัฐเสียใหม่โดยการออกพระราชบัญญัติ
              Pendleton Act ในปี ค.ศ.1883 โดยน�าหลักคุณธรรม (Merit principle)

              มาใช้กับการบริหารงานบุคคลภาครัฐ
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31