Page 178 - kpi12821
P. 178

แนวทางปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง




                   การฝ่าฝืน ผู้ฝ่าฝืนย่อมมีความผิดอาญาฐานขัดคำสั่งศาล  และ (5) คำสั่งให้เริ่ม
                                                                      116
                   กระบวนการชำระบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของพรรคการเมืองนั้นโดยศาลจะสั่งตั้ง
                   ผู้ชำระบัญชีจำนวน 3 คน เมื่อชำระบัญชีแล้วเสร็จ ทรัพย์สินสุทธิภายหลังการชำระ
                   บัญชีจะมอบให้แก่องค์กรที่ทำกิจกรรมด้านสังคมและมนุษยธรรม 117


                        4.2 การห้ามมิให้มีพรรคการเมืองอื่นแทนที่พรรคที่ถูกยุบไป

                             คำพิพากษายุบพรรคการเมืองย่อมมีผลเป็นการห้ามมิให้มีการจดทะเบียน

                   จัดตั้งพรรคการเมืองโดยใช้ชื่อที่เหมือน คล้ายคลึง หรือพ้อง ไม่ว่าด้วยตัวอักษรหรือด้วย
                                                                118
                   การออกเสียง (Phonetic) กับพรรคที่ถูกยุบไปแล้ว  และห้ามมิให้บุคคลใดๆ ตั้ง
                   พรรคการเมืองใหม่หรือใช้พรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งไว้แล้ว เป็นตัวแทนสืบทอด
                                                        119
                   กิจการของพรรคการเมืองที่ศาลสั่งยุบไปนั้น  ทั้งนี้ เพื่อให้การยุบพรรคการเมืองเกิด
                   สภาพบังคับที่แท้จริง มิเช่นนั้นแล้ว ก็จะมีการใช้สถานะ “นิติบุคคล” ของพรรคการเมือง

                   อื่นไปในทางมิชอบเพื่อการสืบทอดอุดมการณ์ เป้าหมาย และกิจกรรมของพรรค
                   การเมืองที่ถูกยุบไปต่อๆ ไปอีกได้ ศาลรัฐธรรมนูญสเปนจึงได้วินิจฉัยได้ว่ามาตรการนี้
                   เป็นมาตรการที่สมเหตุสมผลและไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 120
         1
                             ในกรณีเช่นนี้  เมื่อมีคำร้อง ศาลฎีกาแผนกพิเศษย่อมมีอำนาจวินิจฉัยให้
                   พรรคการเมืองดังกล่าวเป็นพรรคที่มิชอบด้วยกฎหมายและสั่งยุบพรรคได้ โดยศาลจะ
                   พิเคราะห์เปรียบเทียบความเหมือนหรือความคล้ายคลึงที่เป็นนัยสำคัญของ

                   พรรคการเมืองทั้งสองพรรคในมิติโครงสร้างองค์กร ตำแหน่งและหน้าที่ของบุคคลที่เป็น

                      116   L.O.P.P., art. 12. 1.a.

                      117   L.O.P.P., art. 12. 1.c.
                      118   L.O.P.P, art. 3.1; Leslie Turano, เรื่องเดิม, น. 732 – 733.

                      119   L.O.P.P, art. 12.1
                      120   S.T.C. (II) Jan. 16, 2004 (No. 6/2004); และ Mónica Montero-Elena, เรื่องเดิม, น. 449– 451.

                      121   L.O.P.P, art. 12. 3; Mónica Montero-Elena, เรื่องเดิม, น. 451; เช่น J.T.S. (S.E.), Mar. 27, 2003
                   และ S.T.C., Jan. 15, 2004 (No. 5/2004); ผู้เขียนแปลว่า “การเปิดหน้ากากนิติบุคคล” แต่บางท่านแปลว่า
                   “การเจาะเกราะนิติบุคคล” หรือ “การกำหนดตัวบุคคลผู้มีส่วนได้เสียที่แท้จริงในนิติบุคคล” เป็นหลักกฎหมาย
                   คอมมอนลอว์ ตัวอย่างเช่น นายเอกทำสัญญาจะไม่ประกอบกิจการแข่งขันกับบริษัท A ที่ตนเคยเป็นผู้บริหารเป็น
                   เวลา 2 ปี แต่นายเอกได้จัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดมาประกอบกิจการดังกล่าวแทน ในเบื้องต้น ต้องถือว่า ห้างฯ เป็น
                   คนละนิติบุคคล นายเอกมิได้ผิดสัญญาแต่อย่างใด แต่เมื่อเจาะเข้าไปพิเคราะห์โครงสร้างหุ้นส่วนหรือผู้บริหารจัด
                   การห้างฯ ดังกล่าวแล้ว เห็นได้ว่า นายเอกตั้งนิติบุคคลมาบังหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดอันเนื่องมาจากการผิด
                   สัญญา
   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182   183