Page 133 - kpi15476
P. 133

132     การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15


                       ถ้าจะพิจารณาจากรายชื่อของพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการนิยมยกย่องว่าเป็น “มหาราช”
                  (the Great) ที่ปรากฎในสื่อสาธารณะภาษาอังกฤษที่ชนทุกชาติสามารถเข้าถึงผ่านโลก

                             9
                  อินเตอร์เนต  จะพบว่า ประเทศที่มีหรือยกย่องพระมหากษัตริย์ของตนเป็น “มหาราช” มากที่สุด
                  ในโลกคือ ประเทศไทย โดยประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ตนยกย่องเป็น “มหาราช” ถึงเจ็ด/
                  แปดพระองค์  มากกว่า “มหาราช” ของจีนหรือเปอร์เซียซึ่งเป็นสองในอาณาจักรที่เคยยิ่งใหญ่
                              10
                  และเก่าแก่ที่สุดของโลกด้วย


                       จากการค้นคว้าข้อมูลพบว่า “การเริ่มการถวายพระราชสมัญญา ‘มหาราช’ ต่อท้ายพระนาม
                  พระมหากษัตริย์นั้นสันนิษฐานว่าเริ่มมีขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ประมาณรัชกาลที่ 4 หรือ
                  5 เนื่องจาก เป็นสมัยที่เริ่มมีการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของชาติและบรรพบุรุษมากขึ้น ทำให้

                  ประจักษ์ถึงวีรกรรมและพระราชอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นๆ จึงได้มีการยกย่อง
                  พระมหากษัตริย์บางพระองค์ที่ทรงมีพระเกียรติคุณเด่นกว่า พระองค์อื่นขึ้นเป็น มหาราช ในเรื่อง

                  ของการริเริ่มถวายพระราชสมัญญามหาราชต่อท้ายพระนามพระมหากษัตริย์ในยุคสมัยต่างๆ นั้น
                  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายไว้ในลายพระหัตถ์ที่ทรงมีถึง
                  พระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ดังนี้ ‘… ที่เพิ่มคำ “มหาราช” เข้าต่อท้าย

                  พระนามพระเจ้าแผ่นดินนั้น ในหนังสือไทยมีหนังสือพระราชพงศาวดาร เรียก ‘สมเด็จ
                  พระนารายณ์มหาราช’ ก่อนที่ใช้คำ ‘มหาราช’  หมายอย่าง The Great ของฝรั่ง คนอื่นเขาก็ใช้มา

                  ก่อนหม่อมฉัน เป็นแต่ตามเขาหาได้เป็นผู้ริใช้ไม่ สังเกตดูพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งที่มีคำธีเกรตอยู่หลัง
                  พระนาม คำนั้นย่อมเพิ่มเข้าต่อเมื่อพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นล่วงลับไปแล้วบางที่ ก็ช้านาน และ
                  เพิ่มเข้าต่อเมื่อมีพระเจ้าแผ่นดินพระนามพ้องกัน โดยปกติมักเรียกพระองค์ก่อนว่า ‘ที่ 1’ พระองค์

                  หลังว่า ‘ที่ 2’ และเปลี่ยนตัวเลขต่อไปตามลำดับ ถ้าพระองค์ใดเป็นอัจฉริยบุรุษจึงใช้คำธีเกรต
                  แทนที่เลข จะยกตัวอย่างดังเช่น เอมเปอเรอวิลเฮมเยอรมัน เมื่อพระเจ้าวิลเฮม (ไกเซอ)

                  เสวยราชย์ก็เรียกพระองค์แรกว่า ที่ 1 พระองค์หลังว่าที่ 2 มาหลายปี จนเยอรมันต่อเรือใหญ่
                  ลำหนึ่ง อย่างวิเศษสำหรับพาคนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค พระเจ้าไกเซอ ประทานนามเรือนั้น
                  ว่า เอมเปอเรอวิลเฮม ธีเกรต แต่นั้นมาจึงเรียกเอมเปอเรอ พระองค์นั้นว่า ธีเกรต คือ มหาราช

                  ที่ไทยเราเอามาใช้ไม่ตรงตามแบบฝรั่ง เพราะไม่ได้เรียกพระนามซ้ำกัน เรียกเพราะเป็นอัจฉริยบุรุษ
                               11
                  อย่างเดียว…’”

                       อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ไทยจะลอกเลียนตามแบบฝรั่งในการเรียกพระมหา-
                  กษัตริย์ของตนว่า “มหาราช” หรือไม่ก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่า ประเทศเรามีพระมหากษัตริย์

                  ที่เป็น “อัจฉริยบุรุษ” หรือ “มหาราช” มากที่สุดในโลก ยิ่งกว่านั้น ประเทศเราก็ยังประเทศล่าสุด
                  ท่ามกลางกระแสประชาธิปไตยนิยมในโลกที่มีองค์พระมหากษัตริย์ที่เป็น “มหาราช” โดยเราได้มี
        เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย     มหาราช, พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช, สมเด็จพระปิยะมหาราช, สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า,

                        http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_people_known_as_the_Great
                     9
                     10
                        พ่อขุนรามคำแหงมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระนารายณ์มหาราช, สมเด็จพระเจ้าตากสิน
                  สมเด็จพระภัทรมหาราช (รัชกาลที่ 9) http://www.nabia10.com/sara/8maharat.html แต่บางแหล่งข้อมูลไม่นับ
                  สมเด็จพระมหาธีราชเจ้า ดู https://sites.google.com/site/mharachkhxngchatithiy/home


                     11
                        https://sites.google.com/site/mharachkhxngchatithiy/home
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138