Page 176 - kpi15476
P. 176

การประชุมวิชาการ
                                                                                          สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15   1 5


                      เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์กับพระธรรมราชาที่เป็นพระพุทธเจ้าไว้ในธรรมราชสูตรไว้อย่างน่าสนใจ
                      การทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือการคุ้มครองคือการรักษาและการป้องกันผู้ที่พระธรรมราชาทั้งสองฝ่าย

                                17
                      รับผิดชอบ
                            ส่วนความหมายที่ว่า ราชาแห่งธรรม แม้จะยังไม่แน่ใจว่าเคยมีการอธิบายเชิงไวยากรณ์

                      ภาษาบาลี-สันสกฤตไว้หรือไม่ แต่ผู้เขียนเห็นว่า เป็นความหมายที่น่าสนใจ  เพราะสะท้อนถึง
                      ความเป็น ธรรมิสร และ ธรรมสามี ที่จะกล่าวถึงต่อไป


                            การเป็นราชาแห่งธรรม หากนำไปเชื่อมกับความหมายว่า การเป็นราชาโดยธรรม ก็หมาย
                      ถึงว่าทรงเป็นราชา ได้แก่ ทรงเป็นใหญ่และเป็นเจ้าของแห่งความดีความถูกต้องหรือความยุติธรรม

                      ได้ด้วยเช่นกัน พระราชาทรงเคารพธรรมทรงปฏิบัติตามธรรมจนกระทั่งธรรมทำให้พระองค์เป็น
                      พระราชา และเมื่อธรรมสถิตอยู่ในพระทัยของพระองค์จนกระทั่งพระทัยของพระองค์มีธรรม

                      พระองค์จึงเป็นใหญ่และเป็นเจ้าของแห่งธรรมเพราะธรรมเป็นคุณสมบัติประดับพระทัยของ
                      พระองค์ที่พระองค์สามารถน้อมนำมาใช้ในการปกครองให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและยังให้
                      แก่ประชาชนเพื่อพวกเขาจะได้ประพฤติปฏิบัติตามธรรมเพื่อประโยชน์สุขในการอยู่ร่วมกัน

                      ตามเรื่องที่ยกมาข้างต้นนั้นจะเห็นว่า ความเป็นพระธรรมราชาในความหมายที่ว่าเป็นพระราชา
                      แห่งธรรมปรากฏชัดอยู่แล้วด้วยในเนื้อหา


                            สำหรับพระพุทธเจ้าทรงได้รับการยกย่องอยู่แล้วว่าเป็นธรรมิสร (ธมฺมิสฺสโร) – ผู้เป็นใหญ่
                      แห่งธรรม และธรรมสามี (ธมฺมสามี) – ผู้เป็นเจ้าของแห่งธรรม คู่กับความเป็นพระธรรมราชา

                      ดังนั้นในฐานะทรงเป็นพระราชาโดยธรรมเหมือนอย่างพระธรรมราชาที่เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์และ
                      ไม่ใช่จักรพรรดิ์อยู่แล้ว จึงทรงเป็นใหญ่และเป็นเจ้าของแห่งธรรมไปด้วยโดยปริยยาย


                            เมื่อกล่าวถึงความเป็นพระราชาแห่งธรรม ผู้เขียนยังคิดไปถึงความหมายของธรรมอีก

                      ข้อหนึ่งคือ คำสอน คำสั่ง กฏระเบียบ ซึ่งทางอาณาจักรอาจเรียกว่า ราชอาณาหรือกฏหมาย
                      เพราะออกโดยพระราชา ส่วนทางพุทธจักรเรียกว่า พุทธอาณาหรือพระวินัย เพราะออกโดย
                      พระพุทธเจ้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมให้สมาชิกได้อยู่ร่วมกันได้ในสังคม การออกราชอาณา

                      และพุทธอาณาได้ของพระธรรมราชาฝ่ายอาณาจักรกับพระธรรมราชาฝ่ายพุทธจักรสนับสนุนถึง
                      ความเป็นใหญ่และเป็นเจ้าของแห่งธรรมของพระองค์โดยแท้ ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถามีกล่าวถึงว่า

                      คราวหนึ่งพระพุทธเจ้าทรงมีพระพุทธอาณาห้ามพระสาวกแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ (การแสดงฤทธิ์)
                      พระเจ้าพิมพิสารสาวกคฤหัสถ์คนสำคัญเห็นว่าอาจเป็นทางให้เกิดอุปสัคในการเผยแพร่พระพุทธ
                      ศาสนาได้ เพราะเมื่อพระพุทธเจ้าห้ามพระสาวกก็เท่ากับห้ามพระพุทธเจ้าเองด้วย จะทำให้

                      พระพุทธศาสนาเสียเปรียบ จึงเสด็จไปเฝ้าและทูลถามถึงเหตุผลที่ทรงบัญญัติ พระพุทธเจ้า
                      ตรัสตอบว่า ทรงบัญญัติห้ามพระสาวกเท่านั้นไม่ได้ห้ามพระองค์เอง จากนั้นจึงตรัสอธิบายให้

                      พระเจ้าพิมพิสารเข้าพระทัยโดยย้อนถามถึงเหตุผลในเรื่องที่พระเจ้าพิมพิสารออกคำสั่งห้ามคน
                      เข้าเก็บมะม่วงในพระราชอุทยานส่วนพระองค์แต่ทำไมพระองค์เองสามารถเข้าเก็บเสวยได้ เมื่อ
                      พระเจ้าพิมพิสารกราบทูลว่าเพราะพระราชอุทยานนั้นเป็นสมบัติของพระองค์พระองค์ทรงมีอำนาจ                เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย



                         17   องฺ.ปญฺจก. 22 / 133 / 140.
   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181