Page 177 - kpi15476
P. 177

1       การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15


                  เหนือสมบัติของพระองค์ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าพระองค์เองก็มีอำนาจเหนือพุทธอาณาที่พระองค์
                  ออกมาให้พระสาวกปฏิบัติ ดังนั้นจึงไม่ได้ผูกมัดพระองค์ ซึ่งก็หมายความว่าพระองค์สามารถ

                              18
                  แสดงฤทธิ์ได้  เรื่องที่ยกมาสรุปเล่าชี้ให้เห็นถึงความเป็นใหญ่และเป็นเจ้าของแห่งธรรมของ
                  พระธรรมราชาทั้งสองฝ้ายได้อย่างชัดเจน และสนับสนับพระพุทธดำรัสที่ตรัสเปรียบเทียบไว้ใน
                  ธรรมราชสูตรตามที่ได้ยกมากล่าวแล้ว




                  ธรรมราชากับพระมหากษัตริย์ไทย




                       คำว่า ธรรมราชา มีใช้ในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ คือ
                  พระยาลิไทยธรรมราชา พระราชนัดดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชในสมัยสุโขทัย พระมหา
                  ธรรมราชา พระราชบิดาของพระนเรศวรมหาราชในสมัยอยุธยา และเป็นสร้อยขยาย

                  พระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ...
                  สุโขทัยธรรมราชา... และยังนำคำว่า ธรรมิก (บาลี-ธมฺมิก, ไทย ธัมมิก) มาประกอบเป็น

                  ปรมินทรธรรมิกมหาราชาธิราช

                       เหตุผลในการถวายปรมาภิไธยอย่างนี้น่าสนใจศึกษาต่อไป แต่ในบทความนี้จะกล่าวถึงแต่

                  เฉพาะธรรมราชาในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเท่านั้น ผู้เขียน
                  ได้เสนอความหมายของธรรมราชาไว้แล้วและจะนำมาอธิบายเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและ
                  พระราชจริยาวัตรเพื่อศึกษาความเป็นธรรมราชาของพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ดังนี้


                       พระราชาโดยธรรม : พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ

                  เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 ทั้งที่ไม่ทรงเต็มพระทัย มีกล่าวไว้ว่า พระบาทสมเด็จ
                  พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวประชวรและเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ก่อน

                  เสด็จสวรรคต พระองค์ทรงมีพระราชหัตถเลขานิติกรรมเกี่ยวกับการสืบราชสมบัติไว้ความ
                  ตอนหนึ่งว่า “…หากมีพระราชโอรสก็ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชาทรงเป็นประธาน
                  คณะผู้สำเร็จราชการต่างพระองค์จนกว่าพระมหากษัตริย์จะทรงบรรลุนิติภาวะ แต่ถ้าไม่มี

                  พระราชโอรสก็ใคร่ให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรงหลวงสุโขทัยธรรมราชาทรงรับรัชทายาทสืบสันติวงศ์ตาม
                  ราชประเพณี...”  เมื่อพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาลที่ 6 มีพระประสูติการ
                                  19
                  พระราชธิดา (ทรงได้รับพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา
                  สิริโสภาวัณณวดี ในรัชกาลปัจจุบัน) แม้ว่าสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชาจะไม่ทรงเต็ม
                  พระทัยรับรับราชสมบัติด้วยทรงเห็นว่าพระองค์ยังไม่แก่(ไม่ชำนาญ)ราชการเพียงพอเนื่องจาก
        เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย   เชษฐาธิราช  จากพระราชประวัติที่ยกมานี้จะเห็นว่า พระองค์ทรงได้รับการพระราชทานพระราช
                  ทรงเป็นพระอนุชาพระองค์เล็กสุดและเจ้านายที่มีอาวุโสพอจะรับราชสมบัติก็ยังน่าจะมี แต่ที่
                  ประชุมก็ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้ทูลเชิญพระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อพระบรม

                             20

                        ธ.อ. 6 / 32. ยมกปาฏิหาริยวตฺถุ.
                    18

                        ส. พลายน้อย, หน้า 43.

                    19

                    20
                        พระยาประกาศอักษรกิจ (เสงี่ยม ราชนันท์), หน้า ช.
   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181   182