Page 272 - kpi15476
P. 272

การประชุมวิชาการ
                                                                                          สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15   2 1


                      การตัดสินใจของแต่ละกลุ่มอีกชั้นด้วย โดยเฉพาะเงื่อนไขระดับโครงสร้างและเชิงวัฒนธรรมที่ไม่
                      เอื้ออำนวยให้แต่ละกลุ่มหันหน้ามาสู่การเจรจาและประนีประนอมกัน ทั้งๆที่หลังปี 2475 ไทยเรา

                      มีเวทีสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐสภาสำหรับการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยแนวทางสันติวิธี กล่าว
                      อีกทางหนึ่งคือ วิธีการนี้จะช่วยเราตอบคำถามได้ว่า ทำไมแต่ละกลุ่มซึ่งมีแนวโน้มยอมรับวิถี
                      การต่อสู้ตามระบบรัฐสภา แต่มักหันกลับไปใช้กำลังเป็นทางออก ดังที่เคยเกิดในสมัยรัชกาลที่ 7

                      มาแล้ว และยังคงอยู่กับเราไปอีกนานในสมัย “สงครามระหว่างสี” หากเราไม่เรียนรู้จาก
                      ประวัติศาสตร์ เพราะคุณค่าของบทเรียนจากอดีตย่อมเป็นเสมือนเข็มทิศให้กับพวกเราทั้งหลายใน

                      การก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางสันติวิธีได้เป็นอย่างดี

                            บทความนี้เขียนขึ้นด้วยเพราะข้อตระหนักดังกล่าว โดยมีจุดมุ่งหมาย 2 ประการด้วยกันคือ

                      มีวัตถุประสงค์ในระดับเฉพาะและทั่วไปในการอธิบายปัญหาความขัดแย้งและการต่อสู้ทาง
                      การเมืองหลัง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน โดยในระดับทั่วไปเพื่อการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อข้อ

                      จำกัดของการต่อสู้แนวทางสันติวิธีของกลุ่มผู้นำในประวัติศาสตร์สมัยประชาธิปไตย และเป็นการ
                      บุกเบิกเปิดพื้นที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยตามแบบ วิธีการ “ปุริสลักขณพยากรณศาสตร์” คือ
                      จากการเน้นเฉพาะตัวบุคคลหรือผู้นำไปสู่กลุ่ม เพื่อเข้าใจปัญหาระดับโครงสร้างและวัฒนธรรม

                      ทางการเมืองที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย ส่วนในระดับเฉพาะเพื่อประกอบการประชุมวิชาการสถาบัน
                      พระปกเกล้า ครั้งที่ 15 “ธรรมราชา” (Dharmarãjã) โดยเฉพาะสำหรับการสัมมนาของห้องย่อย

                      ที่ 2 เรื่อง “การเปลี่ยนผ่านสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยสันติวิธี” ซึ่งทางสถาบัน
                      พระปกเกล้าได้กำหนดสาระสำคัญและประเด็นหลักในการประชุมกลุ่มของห้องย่อยที่ 2 โดยเน้น
                      ในเรื่องบทเรียนจากการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่าน “เพื่อหลีกเลี่ยงและ

                      สร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคมไทย ในการป้องกันมิให้เกิดความรุนแรงทางการเมืองขึ้นอีก…”


                            ในการนำเสนอบทความนี้ ผู้เขียนได้ยึดตามแนวสาระสำคัญของการประชุมกลุ่มของ
                      ห้องย่อยที่ 2 เป็นหลัก เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีคุณค่าต่อสังคมไทยในปัจจุบันและ
                      อนาคต และจะอาศัยความรู้ในระดับเฉพาะคือ สมัยรัชกาลที่ 7 โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จ

                      พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและ/หรือผู้เกี่ยวข้องในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นกรณีศึกษาหรือเป็น
                      ตัวแบบหนึ่งของ “ปุริสลักขณพยากรณศาสตร์” แล้วโยงมาสู่การอธิบายในระดับทั่วไปคือ

                      การสร้างความเข้าใจในข้อจำกัดของการต่อสู้แนวทางสันติวิธีของกลุ่มผู้นำจากอดีตสู่ปัจจุบันและ
                      อนาคต เพื่อเป็นการนำร่องสำหรับเป็นประเด็นการอภิปรายในการประชุมกลุ่มย่อยของห้องที่ 2
                      ได้แก่  “1.ปัจจัยแห่งความสำเร็จและข้อท้าทายจากการบริหารจัดการวิกฤตการณ์ทางการเมือง

                      ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและ/หรือผู้เกี่ยวข้องในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง
                      2.การศึกษาเปรียบเทียบกรณีการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองของไทยจากช่วงเปลี่ยนแปลง

                      การปกครองปี 2475 ถึงปัจจุบัน และ 3.บทเรียนจากการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองในช่วง
                      เปลี่ยนผ่าน”


                            อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สังคมไทยมีบทเรียนแบบมีภูมิคุ้มกันในการป้องกันมิให้เกิดความ
                      รุนแรงทางการเมืองขึ้นอีกนั้น ควรใช้วัคซีนชนิดดีที่ผลิตขึ้นจากรากปัญหาความขัดแย้งของกลุ่ม           เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย

                      ต่างๆ คือมีลักษณะเป็นความรู้เชิงวิชาการและสามารถนำไปสู่ภาคปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   267   268   269   270   271   272   273   274   275   276   277