Page 274 - kpi15476
P. 274

การประชุมวิชาการ
                                                                                          สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15   2 3


                            มาถึงตรงนี้คือจุดสำคัญของประเด็นที่ว่า ถ้าเราจะได้บทเรียนแบบมีภูมิคุ้มกันแล้ว เราคง
                      ต้องทำความเข้าใจถึงปัญหาระดับโครงสร้างและเชิงวัฒนธรรมนั้นคืออะไร เพื่อหาทางปิดกั้น

                      มิให้พวกหัวรุนแรงขึ้นมามีบทบาทนั่นเอง หรือทำอย่างไรจึงจะเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กับ
                      ปีกประนีประนอมของแต่ละกลุ่มได้แสดงบทบาทในความขัดแย้งอย่างทรงพลัง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
                      ต้องเข้าใจว่าพวกหัวรุนแรงขึ้นมามีบทบาทได้อย่างไร หรือต้องทำความเข้าใจว่า มีเงื่อนไขอะไรที่

                      ทำให้แต่ละกลุ่มเห็นว่าแนวทางสันติวิธีไม่สามารถใช้ต่อสู้ได้ ซึ่งจะเกี่ยวโยงไปปัญหาในระดับ
                      โครงสร้างหรือกติกาทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญในขณะนั้น ซึ่งอาจมิใช่พินิจเพียงเนื้อหา

                      มีความเป็นประชาธิปไตยมากหรือน้อย แต่ประเด็นสำคัญคือ เป็นที่ยอมรับกันเพียงใด และ
                      ท้ายสุดคงต้องทำความเข้าใจว่า การไม่ยอมรับหรือไม่ยอมกันบ้างของแต่ละกลุ่ม แล้วมักจบลง
                      ด้วยการใช้กำลังในแต่ละครั้งนั้น สะท้อนถึงจุดอ่อนในเชิงวัฒนธรรมทางการเมืองของคนไทยโดย

                      รวมอย่างไร ที่ไม่เอื้ออำนวยให้กับประชาธิปไตยหรือการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี


                            ฉะนั้นการแสวงหาบทเรียนแบบมีภูมิคุ้มกันในที่นี้ จึงต้องเริ่มจากสมาชิกรายบุคคลและกลุ่ม
                      ย่อย แนวโน้มการต่อสู้และวัฒนธรรมของแต่ละกลุ่ม ฯลฯ จากนั้นทำความเข้าใจต่อไปว่า
                      มีเหตุผลอะไรที่ทำให้แต่ละกลุ่มไม่ยอมรับกติกาทางการเมืองหรือรัฐธรรมนูญ และเห็นว่าต้องใช้

                      กำลังในการต่อสู้ และเมื่อมองภาพรวมของทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องแล้ว มีจุดอ่อนเรื่องอะไรที่เป็นปัจจัย
                      ร่วม คือมิใช่มาจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นการเฉพาะ แต่ทุกฝ่ายล้วนมีส่วนส่งเสริมในการก่อให้เกิด

                      การใช้กำลังหรือความรุนแรง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การไม่รู้จักยอมกันบ้างในหมู่นักการเมือง
                      โดยเฉพาะในเรื่องใหญ่ๆ คือ การไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง เช่น ฉบับ
                      2489 หรือ 2492 นั้น สะท้อนปัญหาด้านใด มีความหมายบอกอะไรให้ทราบว่า สังคมไทยยัง

                      ขาดวัฒนธรรมสำคัญอะไรที่ไม่ส่งเสริมแนวทางสันติวิธีและการปกครองระบอบประชาธิปไตย
                      คำตอบนี้อาจพอมีอยู่บ้างแล้ว แต่ทุกท่านจะได้พบเห็นอย่างชัดเจนเมื่ออ่านในส่วนต่อไป


                            เพื่อให้ท่านผู้อ่านมีเข็มทิศสำหรับการติดตามเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง การนำเสนอ
                      จึงขอเริ่มจาก หัวข้อที่ 2 “การสำรวจเชิงประวัติศาสตร์นิพนธ์: เห็นแต่ผู้นำ แต่ไม่เห็นกลุ่ม

                      การเมือง” เป็นการทบทวนวรรณกรรมหรือการสำรวจเชิงประวัติศาสตร์นิพนธ์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า
                      จุดอ่อนของการศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทยและหรือการเมืองไทยที่ผ่านมาอยู่ตรงไหน และ

                      จะมีข้อเสนออะไรใหม่ เพื่อเป็นฐานคิดต่อไปของการอธิบายปัญหาความขัดแย้งและการต่อสู้
                      ทางการเมืองหลัง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน จากนั้นจะตามมาด้วยวิธีการศึกษาการเมืองไทย
                      สมัยใหม่หรือสมัยประชาธิปไตย คือ “ปุริสลักขณพยากรณศาสตร์” ในหัวข้อที่ 3 วิธีการ

                      “ปุริสลักขณพยากรณศาสตร์” กับการเมืองไทยสมัยใหม่ เพื่อทำให้การอธิบายการเมืองไทยหลุด
                      ออกจากวาทกรรมแคบๆ แบบเดิมเฉพาะตัวบุคคลหรือผู้นำไม่กี่ท่านไปสู่ระดับกลุ่มก้อนและเครือ

                      ข่าย และการอธิบายการเมืองแบบกลุ่มนี้จะเป็นคำตอบให้กับเราได้ทราบต่อๆ ไปว่า อะไรคือที่มา
                      ของปัญหาความขัดแย้งทั้งในระดับโครงสร้างและเชิงวัฒนธรรม ที่ก่อให้เกิดการใช้กำลังหรือความ
                      รุนแรงหลังปี 2475 นับจากในสมัยรัชกาลที่ 7 เป็นต้นมา ดังจะแสดงไว้ในหัวที่ 4 คือ “กลุ่มกับ

                      การอธิบายปัญหาความขัดแย้งและการต่อสู้ทางการเมืองไทยหลัง 2475” และในตอนท้ายของ
                      บทความนี้ขอจบลงด้วยการเปิดประเด็นรวมๆ สำหรับการอภิปรายในการประชุมกลุ่มย่อยของ                      เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย
   269   270   271   272   273   274   275   276   277   278   279