Page 447 - kpi15476
P. 447

44      การประชุมวิชาการ
                   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15


                       กรณีดังกล่าวศาสตราจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ วิเคราะห์ว่า การที่นายถวัติ ฤทธิเดชฟ้อง
                  รัชกาลที่ 7 ต่อสภาผู้แทนราษฎร แทนที่จะฟ้องต่อศาล เนื่องจากในรัฐธรรมนูญการปกครองแห่ง

                  พระราชอาณาจักรไทยฉบับถาวร (10 ธันวาคม 2475) บัญญัติในมาตรา 3 ไว้ชัดเจนว่า
                  “องค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้” แต่นาย
                  ถวัติ ฤทธิเดชก็เข้าใจว่า มาตรา 6 ของพระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม

                  ชั่วคราว 2475 ฉบับ 27 มิถุนายน 2475 บัญญัติว่า “กษัตริย์จะถูกฟ้องร้องคดีอาชญายัง
                  โรงศาลไม่ได้ เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรจะวินิจฉัย” ยังใช้ได้อยู่


                       ต่อมาสภาผู้แทนราษฎรได้ตีความมาตรา 3 ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร (10 ธันวาคม 2475)
                  โดยอ้างอิงคำอภิปรายของพระยามโนปกรณ์นิติธาดาว่า บุคคลไม่สามารถฟ้องพระมหากษัตริย์ได้

                  ทำให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้ฟ้องนายถวัติ ฤทธิเดช ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อรัฐบาลปราบ
                  กบฏบวรเดชได้ ก็มีการนำญัตติการตีความมาตรา 3 ขึ้นพิจารณา โดยสภาลงมติด้วยคะแนน

                  เอกฉันท์ว่า ใครจะฟ้องพระมหากษัตริย์มิได้ทั้งสิ้น

                       ในเวลาต่อมา นายถวัติ ฤทธิเดช กับนาย ต.บุญเทียม ได้เข้าเฝ้าฯ ขอพระราชทาน

                  อภัยโทษที่จังหวัดสงขลา หนังสือพิมพ์ประชาชาติรายงานว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงรับการขอขมา
                  และยังทรงแสดงอัธยาศัยเสรีนิยมมีพระราชปฎิสันถารกับนายถวัติถึง 1 ชั่วโมง โดยทรงรับสั่งขอ
                  โทษนายถวัติที่ทรงได้รับข้อมูลผิดมา


                       นายถวัติ ฤทธิเดชให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ประชาชาติภายหลังว่า “ผมมีความ

                  ปลาบปลื้มในน้ำพระทัยพระเจ้าอยู่หัวอย่างที่สุด ท่านทรงขอโทษราษฎรของท่านเช่นนั้น แสดงว่า
                  ท่านทรงเป็นสปอร์ตแมนเต็มที่ แล้วผมได้ก้มลงกราบที่ฝ่าพระบาทพระองค์ท่าน” ครั้นนายถวัติ

                  กราบบังคมทูลถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ คณะรัฐมนตรีก็กราบบังคมทูลถวายคำแนะนำ
                                                                       35
                  ให้พระราชทานอภัยโทษ ต่อมาอัยการจึงถอนฟ้องนายถวัติ

                       พระมหากรุณาธิคุณอันกอร์ปด้วยมัทวะบารมี (ความอ่อนโยน) ของธรรมราชาข้างต้นทำให้
                  ท้าทายลดความร้อนแรงของการท้าทายลงไปเป็นอันมาก



                  หนังสือพิมพ์และการ์ตูนการเมืองสมัยรัชกาลที่ 7 :
                  บทความวิจารณ์และศิลปะท้าทายคติธรรมราชา




                       ท่ามกลางจารีตของสังคมสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ปลายสมัยรัชกาลที่ 6 หนังสือพิมพ์
                  จำนวนหนึ่งได้ใช้ภาพการ์ตูนเป็นเครื่องมือวิจารณ์ผู้ปกครอง ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
        เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย     พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย ใน บทความมุมมองสองวัย ตอนที่ 27 ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์รายวัน,
                  อาทิ นายหอม นิลรัตน์บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยหนุ่ม มีนายเปล่ง ไตรปิ่น (ขุนปฏิภาคพิมพ์
                  ลิขิต) ในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นผู้วาดการ์ตูนล้อการเมือง และ นายเสม สุมานนท์ (แก่นเพ็ชร)



                    35
                        ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. “ผลพระคุณ ธ รักษา : พัฒนาการระบอบประชาธิปไตยอันมี

                  2556.
   442   443   444   445   446   447   448   449   450   451   452