Page 216 - kpi17527
P. 216

ประชาธิปไตยไทยในทศวรรษใหม่
                       2559

                         ทุกวันนี้โรงเรียนส่วนใหญ่ในประเทศไทยสอนแต่ การแข่งขัน แข่งขันกัน

                   เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย จนเด็กต้องไป “เรียนพิเศษ” กันตั้งแต่ชั้นอนุบาล ครูจำนวน
                   ไม่น้อยก็มิได้สอนนักเรียนในห้องเรียนอย่างเต็มที่ เพราะจะเก็บไว้ไปสอนตอน
                   เรียนพิเศษ ความจริงแล้วการแข่งขันมิใช่เรื่องเลวร้าย หากเป็นเครื่องมือที่สำคัญ

                   ในการกระตุ้นให้เด็กพัฒนาศักยภาพของตนเอง แต่การสอนให้แข่งขันกันแต่เพียง
                   อย่างเดียวโดยไม่สอนเรื่องความรับผิดชอบ และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น จะนำมาซึ่ง
                   ความเห็นแก่ตัว เมื่อจบจากโรงเรียนมาเข้ามหาวิทยาลัยก็จะพบกับระบบ

                   การศึกษาแบบ แยกส่วน เรียนทีละวิชา เรียนครบก็จบได้ ไม่ได้เชื่อมโยงกับ
                   ความเป็นไปนอกห้องเรียน แล้วก็มักจะสอนแต่ “ความรู้” ในตำรา ไม่ค่อยสอน
                   “ความจริง” ของสังคม ทั้งยังสอนโดยวิธี “บรรยาย” ให้ “จำ” ไม่ได้สอนให้ “คิด”

                   ระบบการศึกษาของประเทศไทยตั้งแต่โรงเรียนจนมหาวิทยาลัยจึงไม่สามารถสร้าง
                   “พลเมือง” ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมได้อย่างที่ควรจะเป็น


                         เมื่อไม่มี “พลเมือง” ประชาธิปไตยของประเทศไทยจึงล้มเหลวมาโดยตลอด
          20       ประชาชนส่วนใหญ่มิได้เป็น “พลเมือง” ที่มีอิสรภาพ หากอยู่ภายใต้ “ระบบ

                   อุปถัมภ์” ของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน

                   กับนักการเมืองเป็น แนวดิ่ง มิใช่ แนวระนาบ ส.ส. จะให้การอุปถัมภ์และ
                   ประโยชน์แก่ประชาชน ประชาชนก็เลือก ส.ส. คนนั้นเป็น ส.ส. เพื่อให้ความ
                   อุปถัมภ์แก่ตนเองต่อไป “พรรคการเมือง” จึงมักจะมิใช่เครื่องมือของประชาชน

                   ในการสร้างเจตนารมณ์ทางการเมืองดังที่ควรจะเป็น หากเป็นที่รวมกันของ
                   “ผู้อุปถัมภ์” ที่มาจากการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของการจัดสรร
                   ผลประโยชน์ และตามมาด้วยเรื่องการถอนทุนและคอร์รัปชัน สุดท้ายก็จบด้วย

                   การรัฐประหารและฉีกรัฐธรรมนูญ ถึงแม้จะมีความพยายามแก้ปัญหาด้วยการไป
                   “เผยแพร่ประชาธิปไตย” หรือ “สร้างจิตสำนึกประชาธิปไตย” ให้กับประชาชน
                   ในต่างจังหวัด แต่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด เพราะผู้ที่ไปเผยแพร่ก็ไม่รู้ว่าอะไรคือ

                   ประชาธิปไตย และไม่เข้าใจว่า “จิตสำนึกประชาธิปไตย” คืออะไร

                         จิตสำนึกประชาธิปไตยก็คือความเป็น “พลเมือง” นั่นเอง และความเป็น

                   “พลเมือง” นี่เองคือรากฐานของประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยยังไม่ได้
                   เริ่มต้นทำอย่างจริงจัง และทำให้คนไทยไม่มีความสามารถในการปกครองใน
                   ระบอบประชาธิปไตย และเกิดปัญหามากมายในขณะนี้




         สถาบันพระปกเกล้า
   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221