Page 532 - kpi17968
P. 532
521
นิติธรรมและมีผลไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยได้กำหนดขอบเขตทั้ง
รูปแบบทางกฎหมาย (Legal form) และเนื้อหาสาระ (Substantive content)
ของหลักนิติธรรมไว้ดังนี้
(1) รูปแบบทางกฎหมาย (Legal form) ของหลักนิติธรรม
การใช้อำนาจรัฐในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรภาครัฐต้องมีกฎหมายให้อำนาจแก่
องค์กรนั้นๆ หากการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ได้กระทำนอกกฎหมายและกฎหมายมิได้
กำหนดให้อำนาจไว้ ย่อมถือเป็นการกระทำที่มิชอบ (ultra vires) และไม่อาจ
บังคับใช้หรือลงโทษโดยศาล ดังคำวินิจฉัยของศาลอังกฤษในคดี Entick v.
Carrington ว่า “ถ้าหากนี่คือสิ่งที่พบอยู่ในหนังสือตำรากฎหมายอังกฤษ แต่
กฎหมายนั้นมิได้มีอยู่ในประเทศนี้ (“If this is law it would be found in our
books, but no such law ever existed in this country”) (Bradley & Ewing,
2011, p. 95-96) ดังนั้น โจเซฟ ราซจึงได้ระบุลักษณะการปกครองตามกฎหมาย
ว่า หากเจตจำนงในการปกครองนั้นแสดงออกภายนอกโดยมีข้อจำกัดทาง
กฎหมายและเคารพต่อกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าเป็นการปกครองโดยหลักนิติธรรม
(Raz, 1977, p. 45) ในคำวินิจฉัยคดี R (Bancoult) v. Secretary of State
for Foreign and Commonwealth Affairs (No 2) การปฏิบัติหน้าที่ของ
รัฐบาลอังกฤษพบว่า มิได้อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย เนื่องจากอำนาจที่เพิ่มเติม
นั้นได้มอบให้แก่ผู้ใช้อำนาจในนามของรัฐบาลโดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ
รัฐสภา ในอังกฤษการลงโทษแก่ผู้ละเมิดกฎหมายสามารถดำเนินการได้เฉพาะ
โดยกระบวนศาลธรรมดา (ordinary court procedure) ซึ่งในประเทศอื่นอาจจะ
ถูกพิจารณาโดยศาลพิเศษ (designated courts) (Bradley&Ewing, 2011,
p. 96) หน่วยงานของรัฐบาลต้องรับผิดโดยตรงต่อการกระทำที่ก่อให้เกิดความ
เสียหายของตนเอง อย่างไรก็ดี ประมุขแห่งรัฐย่อมได้รับความคุ้มกัน (immunity)
จากการดำเนินคดีฟ้องร้องในศาล ยกเว้นในกรณีประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
อาจจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ โดยการพิจารณาพิพากษาคดีในศาล
(Bradley&Ewing, 2011, p. 96-97) ในคดี M v. Home Office รัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษต้องรับผิดต่อการหมิ่นอำนาจศาลอังกฤษ
(contempt of court) ขณะเดียวกันการกระทำของรัฐสภา (Acts of
Parliament) ซึ่งละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน เช่น การกักขังผู้ต้องสงสัย
บทความที่ผานการพิจารณา