Page 574 - kpi17968
P. 574
563
ตามข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ บ้านกรูดและเครือข่ายกลุ่ม
อนุรักษ์ฯ บางสะพานพยายามชี้แจงกับสื่อมวลชนและหน่วยงานราชการที่
เกี่ยวข้องคือว่าสัญญาความร่วมมือที่ กนอ. กับเครือสหวิริยาทำขึ้นนั้นไม่มีความ
ชอบธรรม เนื่องจากก่อน พ.ศ. 2549 ที่สัญญาร่วมมือจะเกิดขึ้น คณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดกรณีที่ดิน
บริเวณหลังท่าเรือจำนวน 52 แปลงของเครือสหวิริยา ประมาณ 600-800 ไร่
ทับเขตวนอุทยานป่า แม่รำพึงและอยู่เขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า
อบต. แม่รำพึงทราบดี ไม่แตกต่างจากสมัยโครงการโรงไฟฟ้าหินกรูดที่ อบต.
ธงชัยก็มีมติเห็นชอบโครงการและปกปิดไม่ให้ประชาชนได้รับรู้ ทั้งนี้ ความจริง
ได้ปรากฏต่อมาว่ากรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แล้ว การต่อสู้ของ
ชาวบ้านเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง
ต่อชุมชนตั้งแต่โครงการโรงไฟฟ้าหินกรูดจนถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหล็ก
บางสะพานเป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่าแม้มีกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนให้ข้อมูล
ข่าวสารของราชการเกือบทั้งหมดหรือส่วนใหญ่สามารถเปิดเผยได้ภายใต้หลักการ
“เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น” แต่ในทางปฏิบัติ ชาวบ้านต้องอาศัย
พลังมวลชนขวนขวายให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารด้วยตัวพวกเขาเอง และในการทำ
หนังสือยื่นข้อเรียกร้องเกือบทุกฉบับล้วนอ้างตัวบทกฎหมายตามรัฐธรรมนูญและ
กฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสะท้อนว่าพวกเขาได้ต่อสู้ตามกระบวนการ
กฎหมายทุกประการ
ในช่วงก่อนการเคลื่อนขบวนชาวบ้านไปชุมนุมที่ กนอ. ชาวบ้านกลุ่ม
อนุรักษ์ฯ บ้านกรูด-บางสะพานได้จัดประชุมหลายครั้ง ผู้วิจัยได้ร่วมสังเกตการณ์
ในการประชุมของชาวบ้านเมื่อค่ำวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ประเด็นสำคัญที่มีการให้
ข้อมูลข่าวสารคือกฎหมายการนิคมอุตสาหกรรม มีอำนาจเหนือประชาชนในพื้นที่
อย่างมาก การประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวและเตรียมความพร้อมใน
เรื่องกฎหมายของชาวบ้านในฐานะพลเมืองที่ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย
หลังการเจรจาร่วมกันได้มีการทำบันทึกข้อตกลง ลงวันที่ 4 กรกฎาคม
2555 ระหว่าง กนอ. กับเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ฯ บางสะพาน โดยมีสาระสำคัญ
ได้แก่ รับทราบข้อเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์ฯ 2 ประเด็น 1) ที่ดินบางส่วนของ
บทความที่ผานการพิจารณา