Page 589 - kpi17968
P. 589
578
เพราะว่าเป็นทักษะหรือความรู้ที่ทำให้บุคคลผู้นั้นสามารถจะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
ต่อไป และที่สำคัญที่สุด ก็คือ ผู้เขียนมีความเห็นว่าเป็นทักษะหรือความรู้ที่ทำให้
บุคคลผู้นั้นสามารถสนับสนุนการสร้างหลักนิติธรรมที่จะควบคุมการออกกฏหมาย
หรือแก้กฏหมายให้มีความชอบธรรมในสังคมไทยได้ต่อไป
สำหรับในประเทศไทยนั้น ความรู้ประเภทแรก คือ ประชาธิปไตยคืออะไร
เป็นอย่างไร องค์กรนิติบัญญัติเป็นอย่างไร บริหารเป็นอย่างไร ตุลาการเป็น
อย่างไรนั้น น่าจะมีการสอนค่อนข้างจะมากอยู่แล้ว แต่ความรู้ประเภทหลัง หรือ
ทักษะที่จะสร้างพลเมืองให้เป็นผู้ที่รู้จักเลือกข้อมูลข่าวสาร รู้จักที่จะกลั่นกรอง
รู้จักที่จะใช้วิจารณญาณ มีความสามารถที่จะเข้าใจ เปรียบเทียบ แสดงความ
คิดเห็นได้ยังมีน้อยมาก (วิชัย ตันศิริ, 2557) ความรู้ประการหลังเป็นความรู้ที่อยู่
ในลักษณะที่ไม่ต้องการการชี้นำ หรือไม่ต้องการการเรียนในลักษณะบอกเล่าหรือ
แบบบรรยายในชั้นเรียน เพราะฉะนั้นผู้เขียนจึงเห็นว่าการศึกษาจำเป็นต้องมีการ
ปรับปรุงและพัฒนาวิธีการเรียนการสอน และแนวทางของการให้การศึกษา
เพื่อสร้างพลเมืองในสังคมประชาธิปไตยแบบไทยๆ จึงควรเน้นให้ความสนใจ
มุ่งพัฒนาวิธีการเรียนการสอนให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเรียนการสอนที่สร้าง
เสริมอุปนิสัยของการเป็นพลเมืองดี และการนำเอาเรื่องทักษะความคิดเข้าไปสอน
ในโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆให้เพิ่มขึ้น โดยอาจจัดให้อยู่ในหลักสูตร
การเรียนการสอนในรูปแบบในลักษณะของการเป็นวิชาบังคับ หรือเป็นวิชาเลือก
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกวิธีคิดและสร้างอุปนิสัยการเป็นพลเมืองที่ดีให้
มากขึ้น
การสร้างอุปนิสัยการเป็นพลเมืองที่ดี และการสร้างทักษะการคิดเป็น
สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีวิธีการคิดและไม่รู้จักคิดแล้ว ผู้คนในระบอบประชาธิปไตย
ก็จะกลายเป็นผู้ถูกกระทำอย่างเดียว แต่ประชาธิปไตยนั้นหมายถึงทุกคนเป็น
พลเมืองที่ต้องทั้งเป็นผู้กระทำ และเป็นผู้มีส่วนร่วมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทย
เราก็พยายามนำการศึกษามาส่งเสริมให้คนสามารถอยู่ในสังคมประชาธิปไตยได้
โดยพยายามจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย ให้อิสระเสรีภาพ
ในการแสดงความคิดเห็น แต่ปรากฏว่าสภาพความเป็นจริงของการจัดการศึกษา
ในระบบโรงเรียน ก็ยังไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
บทความที่ผานการพิจารณา