Page 626 - kpi17968
P. 626
615
เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกได้ และไม่มีข้อกำหนดเฉพาะที่จะตอบสนองต่อ
ความจำเป็นขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขังหญิงอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตามประเด็น
ดังกล่าวไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะในประเทศไทย แต่นานาประเทศทั่วโลก
ต่างพยายามปรับปรุงการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
มากที่สุด และโดยที่กลุ่มผู้ต้องขังหญิงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นที่พวกเรา
ต้องพิจารณาประเด็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น”
ภายหลังที่องค์การสหประชาชาติโดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่
65 ได้ให้ความเห็นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ต่อข้อกำหนดสหประชาชาติ
ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับ
ผู้กระทำความผิดที่เป็นหญิง (United Nations Rules for the Treatment of
Women Prisoners and Non - Custodial Measures of Women Offenders)
หรือเรียกเพื่อเป็นเกียรติกับประเทศไทยว่า ข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok
Rules) ทำให้ข้อกำหนดดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งถึงแม้จะไม่มี
ฐานะเป็นกฎหมายที่มีสภาพบังคับที่ประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม แต่ก็เป็น
มาตรฐานในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงที่ยอมรับกันในระดับสากลและประเทศ
ต่างๆ ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อกำหนดกรุงเทพฯ เพื่อ
ยกระดับมาตรฐานของการราชทัณฑ์ของแต่ละประเทศ
ข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 ข้อกำหนดทั่วไป (Rules of General Application) ว่าด้วย
การบริหารจัดการเรือนจำโดยทั่วไป และใช้กับผู้กระทำความผิดเพศหญิงที่อยู่ใน
ระหว่างการควบคุมทุกประเภท ทุกสถานะคดี ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา รวมไปถึง
ผู้หญิงที่ถูกควบคุมด้วยมาตรการเพื่อความปลอดภัยหรือมาตรการกักกัน
ส่วนที่ 2 ข้อกำหนดที่ใช้สำหรับผู้ต้องขังลักษณะพิเศษ (Rules
Applicable to Special Categories) ว่าด้วยการจำแนกลักษณะ และการ
ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในแต่ละประเภท อาทิ ผู้ต้องขังที่เคยเป็นเหยื่อของการใช้
ความรุนแรง ผู้ต้องขังที่ตั้งครรภ์ ผู้ต้องขังซึ่งเป็นชนพื้นเมือง ชนกลุ่มน้อย ชนเผ่า
ฯลฯ
บทความที่ผานการพิจารณา