Page 44 - kpi20686
P. 44
ห น้ า | 34
Heilbrunn (2004) ได้ศึกษาเรื่อง Aniti-corruption Commissions Pancacea or Real
Medicide to Fight Corruption? ในการจัดท ายุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การทุกจริต ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) ได้มีการศึกษายุทธศาสตร์และกระบวนการท างานด้าน
การป้องกันและปราบปรามการทุจริตจากหน่วยงานต่างประเทศ 3 หน่วยงาน ได้แก่
Corrupt Practices Investigation Bureau: CPIB ของประเทศสิงคโปร์ เป็นหน่วยงาน
ภายใต้สังกัดส านักนายกรัฐมนตรีแต่มีการท างานเป็นอิสระ มีอ านาจครอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยมีโครงสร้างการท างานแบ่งออกเป็นภารกิจ ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านกิจการขององค์กร (Corporate
Affairs) ด้านการสืบสวนสอบสวน (Investigations) และด้านการปฏิบัติการ (Operations)
Independent Commission Against Corruption: ICAC ของฮ่องกง เป็นองค์กรอิสระ
ซึ่งขึ้นตรงต่อฝ่ายนิติบัญญัติ มีอ านาจึงรอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีโครงสร้างการท างานแบ่ง
ออกเป็นภารกิจ ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านการปฏิบัติการ (ปราบปราม) (Operations Department) ด้าน
การป้องกันการทุจริต (Corruption Prevention Department) และด้านประชาสัมพันธ์
(Community Relations Department)
Anti-corruption & Civil Rights Commission: ACRC ของประเทศเกาหลีใต้ เป็น
หน่วยงานรัฐที่ขึ้นตรงต่อประธานาธิบดี โดยมีโครงสร้างการท างานแบ่งออกเป็นภารกิจ ๔ ด้าน ได้แก่
ส านักผู้ตรวจการแผ่นดิน (Ombudsman Bureau) ส านักการต่อต้านการทุกจริต (Anti-Corruption
Bureau) ส านักการบริห าร (Administrative Appels Bureau) และการพัฒ นาสถาบั น
(Institutional Improvement)
เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ประสบความส าเร็จในเชิงประจักษ์และได้รับการยก
ย่องว่าเป็นแบบอย่างที่ดีด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีผลการจัดล าดับดัชนีการรับรู้
การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPL) ในปี พ.ศ๒๕๕๘ อยู่ในล าดับที่ ๘,๑๘ และ ๓๗
ตามล าดับ รวมทั้งมีสภาพบริบททางสังคมและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศไทย ซึ่งสามารถน า
วิธีการด าเนินงานมาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศไทยใหมี
ประสิทธิภาพ และเท่าทันกับสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทั้งนี้ มีข้อค้นพบจาก
การศึกษาที่สามารถก าหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ถวิลวดี บุรีกุล และคณะ (2559) ได้ศึกษา การปฏิรูปประเทศไทยด้านการต่อต้านการ
ทุจริตและการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของเยาวชน การกรณีศึกษาของราชอาณาจักรสวีเดน พบว่า
ราชอาณาจักรเดนมาร์กถือว่าเป็นประเทศที่มีความโปร่งใสมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยจาก
การจัดอันดับ ขององค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency Internation -TI) เดนมาร์ก
เป็นประเทศที่มีความโปร่งใสในการบริหารประเทศตามดัชนี The Corruption Perception Index:
CPI 2013 จากประเทศที่ได้รับการประเมินทั้งสิ้น 177 ประเทศ โดยได้คะแนน 9.1 จากคะแนนเต็ม
10 และเมื่อพิจารณาย้อนไปในปี 2012 เดนมาร์กก็ได้รับการประเมินเป็นอันดับ 1 เช่นกัน ด้วยเหตุนี้
จึงเป็นประเทศที่น่าศึกษาว่าประเทศนี้มีมาตรการใดที่ท าให้เป็นประเทศมีความโปร่งใส และของ
อันดับต้นๆ ได้มาตลอด