Page 42 - kpi20686
P. 42
ห น้ า | 32
และด้านการประสานงาน ทั้ง 3 ด้านนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
งานตรวจสอบของ สตง. ตามแนวคิดการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี 7 ด้านอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ
เด็จณรงค์ แทนคาม (ม.ป.ป.) ได้ศึกษาเรื่อง การน านโยบายการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตในภาครัฐไปปฎิบัติ: ศึกษากรณีส านักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต
พื้นที่ 3 การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาทบทวน อ านาจหน้าที่การป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตในภาครัฐ เพื่อศึกษาประเด็นปัญหาอุปสรรคส าคัญที่เกี่ยวข้องกับการน านโยบายป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐไปปฏิบัติ แลเพื่อศึกษาข้อเสนอแนะแนวทางในการป้องกันและปราบ
กรามการทุจริตในภาครัฐ พื้นที่เขต 3 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเอื้อต่อการแก้ไขปัญหาการ
ทุจริต ใช้วิธีการวิจัยเชิงเอกสาร และวิธีการวิจัยภาคสนาม เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบเจาะจง
กลุ่มตัวอย่างผู้บริหาร ข้าราชการ ที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในส านักงาน
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขตพื้นที่ 3 จ านวน 5 คน ผลการศึกษาพบว่า ส านักงาน
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขตพื้นที่ 3 มัหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการ
ทุจริตในภาครัฐ ตามแผนยุทธศาสตร์ของส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตใน
ภาครัฐ พบประเด็นปัญหาอุปสรรคที่ส าคัญ ประกอบด้วย ปัญหาด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุ
อุปกรณ์และเทคโนโลยี กฎหมาย ความร่วมมือ และด้านอ านาจและความสัมพันธ์กับองค์กรอื่นที่
เกี่ยวข้อง
ณัฐกานต์ มณีรัตน์ และสอาด หอมมณี (2559) ได้ศึกษาเรื่อง ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับ
อ านาจหน้าที่ของส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ
ตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นมาและความส าคัญของ
ปัญหาเกี่ยวกับอ านาจหน้าที่ในการสอบสวนคดีและการน าคดีขึ้นสู่ศาลในคดีทุจริตทางการเงินของ
ส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอ านาจหน้าที่ในการสอบสวนคดี
ทุจริตทางการเงินของส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และการก าหนดนิยามศัพท์ค าว่า “เงินแผ่นดิน”
โดยเป็นการวิจัยเอกสาร ขอบเขตการวิจัยเกี่ยวกับบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับบทบาทและอ านาจหน้าที่
ขององค์กรตรวจเงินแผ่นดินไทย ระบบการตรวจเงินแผ่นดินของประเทศ อาทิ รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของส านักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีอ านาจหน้าที่ใน
การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542 คล้ายกับพนักงานสอบสวนของส านักงานต ารวจแห่งชาติ พนักงาน
ไต่สวนของส านักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. และส านักงานคณะกรรมการ ป.ป.ท. แต่กลับมีอ านาจ
เป็นเพียงเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มิได้เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมาย วิธี
พิจารณาความอาญา ท าให้ต้องส่งรายงานผลการตรวจสอบสืบสวนกรณีทุจริตทางการเงินให้กับ
ส านักงานต ารวจแห่งชาติ ส านักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. และส านักงานคณะกรรมการ ป.ป.ท.
ด าเนินการต่อไป ท าให้คดีนั้น ๆ ล่าช้าหรือหยุดชะงัก เนื่องจากแต่ละองค์กรมีหน้าที่ความรับผิดชอบ
ตามอ านาจหน้าที่ในด้านอื่น ๆ เป็นจ านวนมาก อีกทั้งมีเรื่องที่รับไว้ตรวจสอบค้างอยู่จ านวนมาก การ
ที่ต้องเริ่มสอบสวนกรณีทุจริตทางการเงินใหม่ โดยที่องค์กรดังกล่าวเหล่านั้นไม่มีความรู้ความ
เชี่ยวชาญในการตรวจสอบกรณีทุจริตทางการเงิน และไมมี่ความรู้ความเข้าใจในกฎหมายและระเบียบ