Page 144 - kpi20756
P. 144

1       การประชุมวิชาการ
                    สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
            ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                  ก็คือ ศาสนา เพราะมีความเข้าใจโดยทั่วไปในสังคมมลายูมุสลิมว่าผู้หญิงไม่สามารถเป็นผู้นำได้
                  ขณะเดียวกันนอกจากจะมีข้อถกเถียงในพื้นที่ว่าตกลงแล้วผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำได้หรือไม่ ยังมี

                  ข้อถกเถียงด้วยว่า สรุปแล้ว ส.ส. เป็นผู้นำหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ตัวแทนของประชาชนในการที่
                  จะคอยส่งเสียงในประเด็นต่างๆ เท่านั้น (เพชรดาว โต๊ะมีนา, 2562) ขณะที่ในช่วงที่ พรพิชญ์
                  พัฒนกุลเลิศ ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. นราธิวาสถึง 3 สมัย แต่เขาไม่เคยแสดงอัตลักษณ์ใดๆ ว่า

                  เขาคือชาวมลายูมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร และแน่นอนว่า
                  คะแนนที่เขาได้ ส่วนหนึ่งมาจากชาวไทยพุทธในพื้นที่เมือง ซึ่งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก (พรพิชญ์

                  พัฒนกุลเลิศ, 2562)


                  บทสรุป



                       ตัวตนของนักการเมืองในพื้นที่ชายแดนใต้ก็คงจะไม่ได้แตกต่างจากนักการเมืองในพื้นที่อื่นๆ

                  ของประเทศไทยมากนัก กล่าวคือ มีความหลากหลายที่ไม่สามารถสรุปรวมในก้อนเดียวกันได้ว่ามี
                  ลักษณะอย่างไร ในแต่ละเขตก็จะแตกต่างกันออกไป และสะท้อนถึงประชาชนที่เลือกผู้แทนของ

                  พวกเขาด้วย ทว่าสิ่งที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดก็คือ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในพื้นที่
                  ชายแดนใต้จะมีนักการเมืองที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ความเป็นมลายูมุสลิมอย่างเห็นได้ชัด และ
                  พวกเขามักจะเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ ของชาวมลายูมุสลิม โดยใช้แนวทางสันติวิธี

                  ในการต่อสู้ กล่าวคือ พวกเขาเลือกใช้ระบบที่มีอยู่เพื่อเข้าไปสู่ระบบแล้วค่อยปรับระบบให้
                  สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวมลายูมุสลิม ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลดีต่อพี่น้องมุสลิมทั่วประเทศด้วย

                  เช่น การที่สตรีมุสลิมสามารถสวมฮิญาบได้ในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา สถานที่
                  ราชการ และอื่นๆ การมีธนาคารอิสลาม หรือการมีสถานที่ละหมาด ณ สนามบินใหญ่ๆ ของ
                  ประเทศ และอีกมากมายเป็นต้น ขณะเดียวกัน นักการเมืองที่ไม่ได้สนใจประเด็นดังกล่าว แต่มี

                  ความประสงค์เพื่อขยายอิทธิพลหรือเครือข่ายทางการเมืองของตนเองก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน

                       ขณะเดียวกัน เมื่อนักการเมืองมลายูมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้เรียกร้องสิทธิต่างๆ ให้กับ

                  คนในพื้นที่ ซึ่งมีความต่างจากคนในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย ก็อาจถูกไอโอ (IO) หรือปฏิบัติ
                  การข่าวสาร (Information Operation) โจมตีหรือใส่ร้ายป้ายสี อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ

                  นักการเมืองมลายูมุสลิมหลายๆ ท่านที่ผ่านๆ มา ดังนั้นแล้ว ในความเป็นนักการเมืองมลายู
                  มุสลิมจึงเป็นทั้งโอกาสและข้อจำกัดที่จะต้องรับมือกับข้อท้าทายหลายประการที่เกิดขึ้น การเมือง
                  ในระดับชาติที่เปลี่ยนไป รัฐธรรมนูญและกรอบกฎหมายที่ปรับเปลี่ยน รวมถึงสถานการณ์ความ

                  ไม่สงบที่มีการขึ้นลงตลอดเวลา ปัจจัยทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่นักการเมืองมลายูมุสลิมในพื้นที่
                  จะต้องรับมือ แม้ว่ามักจะมีการมองว่านักการเมืองจะต้องเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นเสมอ หรือ
        เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 2   การเปิดพื้นที่ในการขับเคลื่อนเรื่องการปกป้องสิทธิและเสรีภาพผ่านกระบวนการทางการเมือง
                  อาจเป็นกลุ่มที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของผลประโยชน์อยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับพื้นที่ชายแดนใต้แล้ว


                  ผ่านกรอบกฎหมาย และการมีพื้นที่ในการหยิบยกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้เป็นที่รับรู้ต่อสังคม

                  ยังคงจำเป็นต้องมี เพื่ออย่างน้อยแล้วจะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับกลุ่มบุคคลที่ต้องการขับเคลื่อน
                  เปลี่ยนแปลงสังคมภายใต้โลกที่เปลี่ยนไป แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในเรื่องของระบบการเมืองในสังคมไทย

                  โดยรวมก็ตามที
   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149