Page 268 - kpi20756
P. 268
2 8 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย
เคยเกิดขึ้นกับประเทศในฝั่งตะวันตกได้ กลุ่มทุนที่ถือครองฐานข้อมูลย่อมสามารถใช้ประโยชน์
จากสิ่งที่ตนมี มาต่อยอดการออกแบบบริการหรือสร้างการตลาดที่ได้เปรียบเชิงแข่งขันเอาเปรียบ
คู่ต่อสู้ได้ แม้กระนั้นประชาชนที่ดูเหมือนจะได้ประโยชน์สูงสุดก็อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น
นอกจากนี้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในจีนถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่สามารถเป็นบทเรียนที่สำคัญ
ต่อประเทศไทยในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล นั่นคือ จีนมีการใช้ระบบคะแนนความน่าเชื่อถือทาง
สังคม (Social Credit) ที่ผูกโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เข้ากับการประเมินความประพฤติ
ของประชาชนในเมืองต่างๆ ครอบคลุมทั้งทางด้านพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ การก่อ
อาชญากรรม หรือแม้แต่การหลีกเลี่ยงหรืองดเว้นการจ่ายภาษีแก่มณฑลต่างๆ ซึ่งมีการประกาศ
ใช้ครอบคลุมทุกมณฑลของจีนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 หากประชาชนได้คะแนนต่ำก็จะได้ถูกตัด
สวัสดิการที่พึงได้รับจากรัฐ ในขณะที่ผู้ที่มีคะแนนสูงก็จะได้รับส่วนลดจากการใช้บริการจาก
ภาครัฐ ทิศทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของมณฑลจึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลจีน
อย่างใกล้ชิด และการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะในจีนก็หลีกเลี่ยงมิได้ที่จะไม่ดำเนินการตามนโนบาย
ดังกล่าว หากย้อนกลับมาพิจารณาในประเทศไทยย่อมเป็นสิ่งที่ต้องขบคิดและมองผลกระทบ
ที่อาจเกิดขึ้น หากจะนำระบบดังกล่าวมาใช้ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Karoonporn
Chetpayark, 2561)
ในท้ายสุดผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นถึงข้อสังเกตหลักใหญ่เรื่องความเหลื่อมล้ำที่มีในนโยบาย
เมืองอัจฉริยะ แม้นโยบายเมืองอัจฉริยะนี้จะเป็นนโยบายที่สอดรับความความเจริญเติบโตทาง
เศรษฐกิจในพื้นที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้คนก็ตาม แต่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
แฝงอยู่ ไม่เพียงแค่นั้นนโยบายนี้อาจสร้างความเหลื่อมล้ำที่เข้าไปสัมพันธ์กับมิติทางสังคมและ
การเมือง เช่นประเด็นคนจนกับนโยบายของรัฐ โดยคนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากเหลื่อมล้ำ
ทั้งในมิติด้านรายได้ ด้านสิทธิ ด้านโอกาส ด้านอำนาจและด้านศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งทุก
ด้านย่อมมีความเชื่อมโยง อันเป็นข้อสังเกตสำหรับนโยบายเมืองอัจฉริยะที่ด้านหนึ่งอาจนำไปสู่
ความเหลื่อมล้ำอย่างสาหัสในเมืองกว่าเดิมด้วยนโยบายที่หวังดี แต่ผลอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่
ประสงค์ไว้ และผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อสังเกตที่เสนอมาสำหรับนโยบายพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ที่ในอนาคตจะสามารถตอบโจทย์ทุกฝ่ายได้
7. บทสรุป
ประเด็นคำถามทั้งสองข้อ คือหนึ่งใครเป็นผู้มีบทบาทหรืออิทธิพลในการผลักดันนโยบาย
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย และสองข้อสังเกตความ
เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 5 55 อาศัยอยู่ในเขตเมือง และแนวโน้มประชากรจะเข้ามาอาศัยในเขตเมืองมากขึ้น การขับเคลื่อน
เหลื่อมล้ำด้านนโยบายการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)” ในประเทศไทยเป็นอย่างไร
ความเป็นเมืองได้เป็นประเด็นหลักสำหรับการพัฒนาเมือง มาจากประชากรโลกกว่าร้อยละ
เมือง (City) และการพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อตอบสนอง
การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นแนวคิดการพัฒนาที่เกิดขึ้นใน