Page 264 - kpi20756
P. 264

2       การประชุมวิชาการ
                    สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
            ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย


                  ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ก็ถือได้ว่าเป็นนโยบายที่พร้อมตอบรับกับความต้องการคนทุกฝ่าย
                  ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ริเริ่มในสมัยรัฐบาล

                  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงอาจสานต่อความสำเร็จจากขอนแก่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และ
                  อาจสานต่อสู่ความสำเร็จของเมืองอัจฉริยะเมืองอื่นๆ ในประเทศไทยได้อีกด้วย


                  6.1 ความเหลื่อมล้ำการเลือกพื้นที่เฉพาะเมืองสำคัญในภูมิภาค

                       แม้นโยบายนี้จะได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล มีการวางแนวนโยบายลงในพื้นที่เมืองใหญ่
                  เป็นจังหวัดนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร บริเวณศูนย์กลางคมนาคมขนส่งบางซื่อ รวมถึง

                  ภูเก็ต, เชียงใหม่, ขอนแก่น, ชลบุรี, ระยอง พิจารณาจากหลักเกณฑ์คัดเลือกจะดูที่ความพร้อม
                  ของจังหวัดและการเข้ามาร่วมทำงานของภาคเอกชน หากแต่ในจังหวัดเมืองรองของไทยกลับมิได้มี

                  การส่งเสริมให้เกิดเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม เช่น กรณีของจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่มีความ
                  ก้าวหน้ามากที่สุดมีการลงทุนจากภาคเอกชนด้านออนไลน์และจีพีเอสเพื่อการป้องกันการทิ้งขยะ
                  ในเขตเทศบาล มีภาคเอกชนท้องถิ่นได้รวมตัวกันจัดตั้ง บริษัทภูเก็ตพัฒนาเมืองจำกัด ช่วยพัฒนา

                  เมืองภูเก็ต จัดการจราจรแก้ปัญหารถติด เป็นต้น ความพร้อมแบบนี้เมืองรองในประเทศไทย
                  ไม่สามารถที่ตอบสนองได้อย่างเช่นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างเมืองภูเก็ต


                       เรามักมีสมมติฐานกันว่า การผลักดันนโยบายนี้เกิดจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่
                  ที่ต้องการเห็นจังหวัดมีการพัฒนาอย่างครบวงจร จึงเกิดการรวมตัวและลงทุนเปิดบริษัทพัฒนา

                  เมืองตามจังหวัดต่างๆ เพื่อนำงบประมาณเหล่านี้ที่มีมาสนับสนุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
                  ในการพัฒนาเมือง หากแต่ในทางปฏิบัติจริง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีงบประมาณสนับสนุนมาก

                  เพียงพอ ประชาชนต้องการไม่ใช่เพียงการพัฒนาเมืองให้เมืองอัจฉริยะ แต่ที่แท้จริงพวกเขา
                  ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นคุณสมบัติที่เมือง
                  ดังกล่าวจะตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ นั้นย่อมส่งผลให้เกิดการรวมตัวกันของกลุ่มทุน

                  และชนชั้นนำในท้องถิ่นในฐานะกลุ่มผลประโยชน์ (Interest Group) ผู้ผลักดันให้มีการเกิดการ
                  กำหนดนโยบายเมืองอัจฉริยะในจังหวัด กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีความใกล้ชิดสัมพันธ์กันทั้งด้าน

                  ภูมิหลังทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ทำใหเกิดการรวมตัวกันได้ง่าย ประกอบกับการลงทุน
                  ก่อตั้งบริษัทพัฒนาเมืองตามจังหวัดต่าง ๆ จำเป็นใช้งบประมาณลงทุนสูงมาก ผลท้ายที่สุดเป็น
                  แรงกดดันสำคัญให้ประชาชนธรรมดาขาดอำนาจต่อรอง แล้วภาคประชาชนไม่สามารถเข้ามามี

                  ส่วนร่วมผลักดันการกำหนดนโยบายนี้ได้ หากเราสามารถเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาร่วมทำ
                  ประชาคมเพื่อหารือแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมากขึ้น ก็ย่อมทำให้แนวทางการพัฒนาเมือง

                  อัจฉริยะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

        เอกสารประกอบการสัมมนากลุ่มย่อยที่ 5   จัดตั้งบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง และบริษัทภูเก็ตพัฒนาเมือง โดยเฉพาะบริษัทแห่งแรกคือ
                  6.2 นโยบายเมืองอัจฉริยะกับความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยการผลิต

                       นโยบายเมืองอัจฉริยะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยการผลิต จากการรวมกัน


                  บริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด (KKTT) เป็นการรวมตัวที่ตั้งต้นจากบริษัทในพื้นที่จังหวัด

                  ขอนแก่นร่วมกันกว่า 20 บริษัท มีจุดประสงค์ส่งต่อเมืองขอนแก่นที่มีการพัฒนาแก่รุ่นต่อไป
   259   260   261   262   263   264   265   266   267   268   269