Page 80 - kpi20756
P. 80
80 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 21
ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย
(2) โครงสร้างจิตสำนึกแห่งความเป็นธรรม จิตสำนึกเป็นพลังที่ขับเคลื่อนการกระทำ
ต่างๆ จิตสำนึกที่เคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนอย่าง
เท่าเทียมกัน เป็นพื้นฐานของสิ่งดีงามต่างๆ ในสังคม เช่น ประชาธิปไตย
เรื่องผลของกรรมเก่า หลักคิดที่ส้าคัญทางพุทธที่เรียกว่า อิทัปปจยตา หรือ กระแสของเหตุปัจจัย หรือ
การเคารพสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม ความเป็นธรรม ถ้าขาดจิตสำนึกแห่ง
ห่วงโซ่ของความเป็นเหตุเป็นผลนั้น ถ้าไล่ไปตามเหตุปัจจัยก็จะเจอเหตุปัจจัยเชิงระบบและโครงสร้าง
ความเป็นธรรมเสียแล้ว การกระทำต่างๆ ก็เป็นเพียงรูปแบบ หรือกลไก หรือ
ถ้าจะสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้้าได้ สังคมไทยต้องปรับวิธีคิดให้เข้าใจเหตุปัจจัยเชิงระบบ
ปลอม หรือขาดคุณภาพ สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความเหลื่อมล้ำมาแต่โบราณ
และโครงสร้าง
ที่คนจนคนเล็กคนน้อย เป็นบ่าว เป็นไพร่ เป็นทาส ไม่มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน
(๒) โครงสร้างจิตส้านึกแห่งความเป็นธรรม จิตส้านึกเป็นพลังที่ขับเคลื่อนการกระท้าต่างๆ จิตส้านึกที่
เคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นพื้นฐานขอ
โดย ความเคยชิน โดยไม่รู้ตัว เสมือนเป็นดีเอ็นเอทางสังคม สังคมไทย งสิ่งดีงาม
ขาดจิตสำนึกในการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนอย่างรม ถ้าขาด
ต่างๆ ในสังคม เช่น ประชาธิปไตย การเคารพสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม ความเป็นธร
จิตส้านึกแห่งความเป็นธรรมเสียแล้ว การกระท้าต่างๆ ก็เป็นเพียงรูปแบบ หรือกลไก หรือปลอม หรือ
เท่าเทียมกัน โครงสร้างทางจิตสำนึกเช่นนี้เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อ
ขาดคุณภาพ สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความเหลื่อมล้้ามาแต่โบราณ ที่คนจนคนเล็กคนน้อย เป็นบ่าว
การพัฒนาประชาธิปไตย การเคารพสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม และความ
เป็นไพร่ เป็นทาส ไม่มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน โดย ความเคยชิน โดยไม่รู้ตัว เสมือนเป็นดีเอ็นเอทาง
เป็นธรรม
สังคม สังคมไทยขาดจิตส้านึกในการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนอย่างเท่า
(3) โครงสร้างทางสังคม สังคมไทยเป็นโครงสร้างทางดิ่ง (Vertical society) คือ
เทียมกัน โครงสร้างทางจิตส้านึกเช่นนี้เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อการพัฒนาประชาธิปไตย การ
สัมพันธภาพเชิงอำนาจ จากบนลงล่างที่เรียกว่า ท็อปดาวน์ (Top-down) เราจะ
เคารพสิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม และความเป็นธรรม
เห็นสัมพันธภาพเชิงท็อปดาวน์ทุกหนทุกแห่งในสังคม เช่น ระหว่างพ่อแม่กับลูก ชิงอ้านาจ
(๓) โครงสร้างทางสังคม สังคมไทยเป็นโครงสร้างทางดิ่ง (Vertical society) คือสัมพันธภาพเ
จากบนลงล่างที่เรียกว่า ท็อปดาวน์ เราจะเห็นสัมพันธภาพเชิงท็อปดาวน์ทุกหนทุกแห่งในสังคม เช่น
ครูกับนักเรียน นายกับลูกน้อง ข้าราชการกับราษฎร พระสงฆ์กับแม่ชี หรือ
ระหว่างพ่อแม่กับลูก ครูกับนักเรียน นายกับลูกน้อง ข้าราชการกับราษฎร พระสงฆ์กับแม่ชี หรือ
แม้แต่ระหว่างแพทย์กับคนไข้
แม้แต่ระหว่างแพทย์กับคนไข้
เอกสารประกอบการปาฐกถาพิเศษ พฤติกรรมเบี่ยงเบนมาก เช่น การฉ้อโกง เฉื่อยงาน ซ่อนข้อมูล นินทาว่าร้าย ขาดความ
สังคมทางดิ่งเป็นสังคมอ่อนแอ เพราะขาดการรวมตัวร่วมคิดร่วมท้าด้วยความเสมอภาค และภราดร
สังคมทางดิ่งเป็นสังคมอ่อนแอ เพราะขาดการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำด้วยความเสมอภาค
ภาพ เนื่องจากเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้้า สัมพันธภาพทางดิ่งท้าให้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนมาก เช่น การ
และภราดรภาพ เนื่องจากเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำ สัมพันธภาพทางดิ่งทำให้มี
ฉ้อโกง เฉื่อยงาน ซ่อนข้อมูล นินทาว่าร้าย ขาดความเชื่อถือไว้วางใจกัน สังคมทางดิ่งมีการเรียนรู้น้อย เพราะ
คนมีอ้านาจก็ใช้อ้านาจโดยไม่เรียนรู้ คนไม่มีอ้านาจก็ต้องท้าตามค้าสั่ง ไม่มีโอกาสคิดเองและเรียนรู้ สังคมทาง
เชื่อถือไว้วางใจกัน สังคมทางดิ่งมีการเรียนรู้น้อย เพราะคนมีอำนาจก็ใช้อำนาจโดยไม่เรียนรู้
ดิ่งจึงมีคุณภาพและสมรรถนะต่้า เป็นความเหลื่อมล้้าทางสังคม และปัจจัยของความเหลื่อมล้้าในข้ออื่นๆ
คนไม่มีอำนาจก็ต้องทำตามคำสั่ง ไม่มีโอกาสคิดเองและเรียนรู้ สังคมทางดิ่งจึงมีคุณภาพ
(๔) โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ในครั้งโบราณมี ๓ อาชีพคือ เกษตรกรรม พาณิชยกรรม และรับราชการ การ
และสมรรถนะต่ำ เป็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม และปัจจัยของความเหลื่อมล้ำในข้ออื่นๆ
เป็นเจ้าขุนมูลนายหรือข้าราชการคงมีฐานะทางเศรษฐกิจสูงกว่าอาชีพอื่น ดังค้าพูดที่ว่า “๑๐ พ่อค้า
ไม่เท่า ๑ พระยาเลี้ยง” ต่อมาภาคธุรกิจได้เติบโตขึ้น ในระบบทุนนิยมที่มีองค์กรทุนขนาดใหญ่ เป็น
สถาบันชนิดใหม่ในสังคมที่มีอ้านาจมาก อ้านาจบางอย่างก็มากกว่ารัฐและข้ามรัฐ นักธุรกิจที่ร่้ารวยยัง
มีศักดิ์ศรีหรือสถานภาพทางสังคมสูงขึ้นด้วย ดังที่แต่ก่อน “เจ๊ก” ดูเหมือนเป็นวรรณะที่ต่้าต้อย แต่
ต่อมา “เจ๊กที่ร่้ารวย” สามารถไปแต่งงานกับเจ้าได้ ทุนขนาดใหญ่ยังมีอิทธิพลต่อระบบราชการและ
ระบบการเมือง มีผลทางลบต่อธรรมาภิบาลของระบบราชการและคุณภาพของประชาธิปไตย