Page 101 - kpi20858
P. 101

58






                                  ภาคที่ ๓ เริ่มเมื่อนางมณโฑประสูติไพนาสุริย์วงค์ซึ่งเป็นลูกทศกัณฐ์ แต่พิเภกเข้าใจ
                            ผิดคิดว่าเป็นลูกของตน  ต่อมาพี่เลี้ยงลอบบอกว่าทศกัณฐ์เป็นบิดา  ไพนาสุริย์วงศ์จึงไปหา

                            ท้าวจักรวรรดิซึ่งเป็นสหายของทศกัณฐ์  ท้าวจักรวรรดิยกทัพมาประชิดกรุงลงกาและจับตัว
                            พิเภกได้  อสุรผัดลูกของหนุมานกับนางเบญกายลูกสาวพิเภกจึงออกตามหาหนุมาน  เมื่อ

                            พระรามทรงทราบเรื่องจากหนุมานจึงโปรดให้พระพรต  พระสัตรุด  ยกทัพไปตีกรุงลงกาและ
                            กรุงมลิวันของท้าวจักรวรรดิ  พระพรต  พระสัตรุดตีได้กรุงลงกาก่อน  ประหารไพนาสุริย์วงศ์

                            และพี่เลี้ยง แล้วยกทัพไปตีกรุงมลิวันได้ฆ่าท้าวจักรวรรดิตาย

                                  ภาคที่  ๔  เริ่มเมื่อพระรามพระลักษมณ์ออกไปประพาสป่า  นางอดูลซึ่งเป็นยักษิณี

                            ญาติของทศกัณฐ์ปลอมเป็นนางก านัล  มาขอให้นางสีดาเขียนรูปทศกัณฐ์แล้วเข้าสิงในรูป

                            นั้นพระรามมาพบเข้าจึงกริ้วให้พระลักษมณ์น านางสีดาไปประหาร   พระลักษมณ์ฆ่านาง
                            สีดาไม่ตายจึงปล่อยนางไป  นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤษีและประสูติพระมงกุฎ  ต่อมาฤษีชุบ

                            โอรสให้นางสีดาอีกองค์หนึ่งนามว่าพระลบ เมื่อเจริญวัยขึ้นพระมงกุฎพระลบไปประพาสป่า

                            และพระมงกุฏลองศร  พระรามได้ยินเสียงศร  จึงกระท าพิธีปล่อยม้าอุปการและให้พระพรต
                            พระสัตรุด และหนุมานตามไป พระมงกุฎพระลบจับม้าอุปการได้จึงขึ้นขี่เล่น หนุมานจะจับก็

                            จับไม่ได้ แต่ต่อมาเมื่อพระพรต พระสัตรุดมาช่วยจึงจับพระมงกุฎได้ น าไปยังกรุงศรีอยุธยา
                            พระลบตามมาช่วยพาพระมงกุฎหลบหนีออกมาได้ พระรามจึงยกทัพตามมาได้รบพุ่ง แต่ศร

                            ศิลป์ ไม่กินกัน พระรามจึงทรงทราบว่าพระมงกุฎพระลบเป็นโอรส พระรามตามมาถึงอาศรม
                            ฤษี และง้องอนขอให้นางสีดากลับไปอยู่กรุงศรีอยุธยา นางสีดาไม่ยอมกลับแต่ให้พระมงกุฎ

                            พระลบไปอยู่กับพระราม  ต่อมาพระรามคิดอุบายให้หนุมานไปลวงนางสีดาว่าพระองค์

                            สิ้นพระชนม์แล้ว  นางสีดาจึงกลับเข้ามา  แต่เมื่อทราบว่าพระรามไม่ตายจริงก็โกรธ  ลงไป
                            อาศัยอยู่ยังเมืองบาดาล  พิเภกมาเฝ้าพระรามทูลขอให้เสด็จออกป่า  ๑  ปี  เพื่อเป็นการ

                            สะเดาะเคราะห์  ได้รบกับยักษ์อีกแต่ก็ชนะทุกครั้งจนกลับคืนเข้าเมือง  ต่อมาพระอิศวรจึง

                            เกลี้ยกล่อมให้พระรามและนางสีดาคืนดีกัน และจัดการอภิเษกให้อีกครั้งหนึ่ง

                                  ภาคที่ ๕ เป็นภาคสุดท้ายเริ่มเรื่องด้วยท้าวคนธรรพ์ซึ่งเป็นยักษ์เช่นเดียวกันไปตีเมือง
                            ไกยเกษซึ่งเป็นเมืองของพระอัยกา  (ตา)  พระพรตได้  พระรามจึงมีรับสั่งให้พระพรต  พระ

                            สัตรุด พระมงกุฏ และพระลบยกทัพไปปราบปราม และตีเมืองไกยเกษคืนได้

                                  ตอนท้ายเป็นการสรรเสริญพระรามและบอกถึงปีที่ทรงพระราชนิพนธ์  (คือการประชุม

                                                                        86
                            กวีช่วยกันแต่งประกอบพระราชนิพนธ์) ในพ. ศ. ๒๓๔๐


                           86   ส านักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,  จิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์รอบพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดา
                       ราม, พิมพ์ครั้งที่ 3 (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ส านักกินแบ่งรัฐบาล, 2538), ไม่ปรากฏเลขหน้า.
   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106