Page 37 - kpi20858
P. 37
24
มนุษย์นั้นมีการใช้ศีรษะเป็นเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อใช้เปรียบเทียบกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย โดยที่
สัดส่วนมนุษย์แบบอุดมคติมักมี 8 ส่วน ในขณะที่สัดส่วนของมนุษย์โดยปกติทั่วไปนั้นมักอยู่ในราว
7 ส่วนครึ่ง
ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ การวาดภาพเหมือนบุคคลส าคัญทางศาสนา และชนชั้นน า
ของสังคม ได้รับการผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15-16 เป็นผลจากนัก
ประพันธ์สมัยดังกล่าวมักมุ่งความสนใจไปที่ชีวประวัติของผู้มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีเหรียญตรา
และรูปปั้นหินอ่อนครึ่งตัว (bust) ของจักรพรรดิโรมันและพลเมืองจากยุคโบราณหลงเหลือให้ผู้
อุปถัมภ์ นักสะสม และศิลปินสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการได้ศึกษา ชื่นชม และน าไปใช้เป็นต้นแบบ
31
ส าหรับงานว่าจ้างใหม่ๆ โดยทั่วไปศิลปินไม่ได้แค่พยายามลอกเลียนธรรมชาติและหวนกลับไปหา
ยุคคลาสสิกเท่านั้น ทว่าศิลปินต่างต้องการท าให้เหนือกว่า
แนวคิดเรื่องร่างกายมนุษย์แบบคลาสสิกนี้ ปรากฏในงานศิลปกรรมเรื่อยมา โดยเฉพาะใน
สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ และลัทธินีโอคลาสสิก ซึ่งส่งอิทธิพลแก่ศิลปะตามหลักวิชาที่ควบคุมการ
สร้างสรรค์ของศิลปินจากสถาบัน เรียกได้ว่าคือศิลปะกระแสหลักที่ครอบง ายุโรปมาอย่างยาวนาน
2.1.1.1.2 ทัศนียวิทยำ
จิตรกรรมและประติมากรรมแบบศิลปะตามหลักวิชานั้นอ้างอิงถึงความเป็นเหตุผล ตั้งอยู่
บนพื้นฐานของความถูกต้อง ลัทธิธรรมชาตินิยมที่ได้รับการยอมรับในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ไม่
เพียงกระตุ้นเร้าก่อให้เกิดการศึกษารูปทรงเชิงกายวิภาคมนุษย์ที่สมบูรณ์และงดงาม แต่ยังก่อ
ให้เกิดการถ่ายทอดมุมมอง และองค์ประกอบต่างๆ อย่างสมจริงของสิ่งแวดล้อมทางกายภาพอีก
ด้วย ทั้งนี้ความถูกต้องทั้งกายวิภาคมนุษย์และการน าเสนอมุมมองทางกายภาพของสิ่งแวดล้อมเป็น
ส่วนส่งเสริม เพิ่มนัยแห่งการสื่อสารเพื่อบอกเล่าถึงสถานที่ หรือเหตุการณ์ที่ศิลปินต้องการแสดง
ออกอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้อีกประการหนึ่งด้วย
การศึกษาถึงมุมมองในระยะต่างๆ มีความส าคัญอย่างมากต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะ
แรกเริ่มนั้นเกิดจากการที่ศิลปินเฝ้าสังเกตธรรมชาติ และถ่ายทอดสิ่งที่เห็นบนพื้นฐานของการท า
ความเข้าใจผ่านโลกทัศน์ของศิลปินชาวกรีกในยุคโบราณ เรื่อยมาจนกลายเป็นการศึกษาอย่าง
31 เจอรัลดีน เอ. จอห์นสัน แปลโดย จนัญญา เตรียมอนุรักษ์, ศิลปะเรอเนซองส์: ควำมรู้ฉบับพกพำ (กรุงเทพฯ:
open world, 2557), 123.