Page 21 - kpi20863
P. 21

มากขึ้นในพื้นที่เมืองที่จ่ากัด ท่าให้เมืองเกิดความหนาแน่นทวีมากยิ่งขึ้น เกิดปัญหาในการบริหารจัดการเมืองที่

               รัฐต้องพยายามแก้ไข ทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการแก้ปัญหาเชิงนโยบาย




                       2.2.1 เมืองกับพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้าง


                       ในรัชกาลที่ 7 เมืองกรุงเทพฯ ขยายตัวขึ้นตามล่าดับ โดยในพื้นที่เมืองชั้นในมีการใช้ที่ดินที่หนาแน่น
               ขึ้น ควบคู่ไปกับความพยายามของรัฐบาลในการขยายโครงข่ายถนนออกไปโดยรอบ (ภาพที่ 2-06) รองรับ

               ประชากรที่เพิ่มขึ้นจาก 666,719 คนในพ.ศ. 2462 เป็น 921,617 คนในพ.ศ. 2472


                       ปัญหาในการบริหารจัดการเมืองที่ทวีความหนาแน่นมากขึ้นทุกวันนี้มีมาแล้วตั้งแต่ช่วงปลายรัชกาลที่
               5 แล้ว โดยที่รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าฯ ให้นายแพทย์เอช. แคมป์เบลล์ ไฮเอ็ต (Dr H. Campbell Highet)

               แพทย์ศุขาภิบาล ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการป้องกันอัคคีภัย และ

               การรักษาความสะอาดเรียบร้อยในพื้นที่เมืองกรุงเทพฯ ต่อมาในรัชกาลที่ 6 ในพ.ศ. 2459 เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ที่
               ริมวัดมหรรณพาราม ในย่านที่มีบ้านเรือนราษฎรหนาแน่น กระทรวงนครบาลเห็นเป็นโอกาสดีในการวางผัง

               ชุมชนใหม่ จัดรูปที่ดินให้เป็นระเบียบ จึงร่างพระราชก่าหนดขึ้นเพื่อใช้ในการเวนคืนที่ดินและตัดถนนใหม่ ใช้

                                                                               22
               เป็นต้นแบบในการตัดถนนหลังเกิดเพลิงไหม้สืบมา อันเป็นมาตรการเฉพาะกิจ  ส่วนการควบคุมการก่อสร้าง
               ให้ได้มาตรฐานทั้งทางการป้องกันอัคคีภัยและความมั่นคง เป็นระเบียบเรียบร้อยนั้น ในพ.ศ. 2459

               กระทรวงมหาดไทยได้ข้อสรุปในที่ประชุมเทศาภิบาลว่า จะมีการร่างพระราชบัญญัติแผนผังก่อสร้าง บังคับใช้

               ในหัวเมืองทั่วไป  และในภายหลัง เมื่อกระทรวงนครบาลยุบรวมเข้ากับกระทรวงมหาดไทยแล้ว ก็มีด่าริว่าจะ
               ออกพระราชบัญญัติแผนผังก่อสร้างที่มีผลบังคับใช้ควบคุมอาคารทั้งในพระนครและหัวเมือง แต่คงค้างอยู่เพียง

                                  23
               ขั้นตอนการร่าง เท่านั้น   และต่อมาในพ.ศ. 2461 เสนาบดีสภาได้มอบหมายให้กระทรวงนครบาลตั้ง
               กรรมการร่างพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างขึ้นอีกครั้ง มีการประชุมกันถึง 40 ครั้งในเวลาสองปี แต่ก็มิได้
               มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวแต่อย่างใด และต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467 เกิดเพลิง

               ไหม้ใหญ่ที่ตลาดโพธาราม จังหวัดราชบุรี กระทรวงมหาดไทยจึงตั้งกรรมการร่างพระราชบัญญัติควบคุมการ

               ก่อสร้างขึ้นอีกค่ารบหนึ่ง แต่เช่นเคย การร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวคงค้างมาจนสิ้นรัชกาลที่ 6
                                                                                             24
                       ในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2473 เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ที่ต่าบลศาลเจ้ากวางตุ้ง ต้นเพลิงอยู่ที่ตึกที่ท่า

               การโรงหนังพัฒนากร ริมถนนเจริญกรุง อาคารและอุปกรณ์การฉายภาพยนตร์เสียหายเป็นมูลค่า 315,000

               บาท และมีผู้เสียชีวิตถึง 16 คน คือภรรยา มารดาภรรยา บุตร หลาน และคนรับใช้ของนายเทียม ตันติเวชกุล
               ผู้จัดการโรงภาพยนตร์ดังกล่าว เจ้าพนักงานสอบสวนได้ความว่าการที่มีผู้เสียชีวิตจ่านวนมากขนาดนี้เป็นเพราะ

                                                                       25
               อาคารเป็นตึกสามชั้น แต่มีบันไดขึ้นลงเพียงทางเดียว ไม่มีทางหนีไฟ   เมื่อความทราบเบื้องพระยุคลบาท
               รัชกาลที่ 7 มีพระราชกระแสพระราชทานสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
               เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ความว่า



                                                            14
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26