Page 26 - kpi20863
P. 26

แม่น้่าเพื่อรับแรงถีบของน้่าหนักสะพาน รัชกาลที่ 7 เสด็จฯ ทรงวางศิลาพระฤกษ์สะพานวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.

               2472 การก่อสร้างแล้วเสร็จวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และมีพระราชพิธีเปิดสะพาน อันนับเนื่องเป็นส่วน
                                                                               38
               หนึ่งของพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2475
                       การก่อสร้างสะพานที่ส่าคัญอีกสะพานหนึ่งในช่วงรัชสมัย คือสะพานกษัตริย์ศึก ซึ่งเป็นสะพานข้าม

               ทางรถไฟและคลองผดุงกรุงเกษมที่ต่าบลยศเส (ภาพที่ 2-12 และ 2-13) กรมรถไฟหลวงออกแบบและก่อสร้าง
               ขึ้น เพื่อแยกการสัญจรบนถนนบ่ารุงเมืองตอนนอก (ถนนพระรามที่ 1) ให้ยกลอยข้ามเส้นทางรถไฟสายเหนือ

               เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างทันสมัย  แล้วเสร็จและเปิดใช้งานในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2472 โดย
                                                      39
                                                                               40
               รัชกาลที่ 7 เสด็จฯ ทรงตัดแถบแพรเปิดสะพาน ในวันที่ 6 เมษายน ปีเดียวกัน


                       2.2.4 ถนนในประเทศสยาม

                       ในรัชกาลที่ 7 มีการขยายโครงข่ายการคมนาคมทางบก คือ ถนน ทั้งถนนระหว่างพระนครและเมือง
               ต่างๆ อันอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทาง กระทรวงพาณิชย์และคมนาคม และถนนในพระนคร อันอยู่ใน

               ความดูแลของกรมนคราทร กระทรวงมหาดไทย ถนนทั้งหลายนี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์และรถประเภท

               อื่นๆ ที่ทวีจ่านวนขึ้นอย่างมหาศาล ในสมัยที่การสัญจรทางบกเริ่มมีความส่าคัญทัดเทียมกับการสัญจรทางน้่า
                       ส่าหรับถนนทางหลวงนั้น กรมทาง กระทรวงพาณิชย์และคมนาคมได้ด่าเนินการก่อสร้างมาแล้วตั้งแต่

               รัชกาลที่ 6 และด่าเนินการต่อในรัชกาลที่ 7 ได้แก่ถนนในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

               (ภาพที่ 2-13)  โดยมากเป็นการปรับปรุงและขยายถนนที่แต่เดิมสมุหเทศาภิบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละ
               จังหวัดก่อสร้างขึ้น ให้เป็นถนนแบบใหม่ที่มีมาตรฐานเดียวกัน เหมาะสมแก่การขนส่งสินค้า  ถนนเหล่านี้

               กระตุ้นให้เกิดการคมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัด โดยที่ราคาค่าขนส่งสินค้าก็ถูกลงด้วย เช่น ในช่วงพ.ศ. 2469 -

               2470 ถนนสาย 3 ล่าปาง - เชียงราย มีปริมาณรถยนต์เพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 85  ส่วนในช่วงพ.ศ. 2468 –
               2469 ถนนสาย 11 สงขลา - สะเดา มีปริมาณรถยนต์เพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 186  “การที่ยวดยานพาหนะเพิ่ม
                                                                                 41
               จ านวนขึ้นมากมายเช่นนี้ เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นชัดว่าการก่อสร้างซ่อมแซม แลบ ารุงรักษาถนน เป็นประโยชน์อัน

               แท้จริงแก่ชาติ  การถนนของประเทศสยามเป็นทั้งเครื่องมือส าหรับป้องกันพระราชอาณาจักร แลเครื่องมือ
                                                          42
               ส าหรับบ ารุงเศรษฐกิจแลส าหรับผดุงการศึกษาด้วย”
                       ถนนส่าคัญอีกกลุ่มหนึ่งที่เริ่มก่อสร้างขึ้นในรัชกาลที่ 7 และส่งผลอย่างยิ่งต่อการขยายตัวของพระนคร

               ในรัชกาลต่อๆ มา คือถนนที่เชื่อมพระนครกับเมืองบริวารโดยรอบ โดยทางทิศเหนือนั้น ในพ.ศ. 2472 รัชกาล
               ที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายศาลากลางเมืองนนทบุรีมาที่ต่าบลบางขวาง ใกล้กับเรือนจ่าใหญ่ที่ได้สร้างขึ้นใหม่

               สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยจึงกราบบังคมทูล

                                                                                                     43
               เสนอให้ตัดถนนกรุงเทพฯ - นนทบุรี เพื่อให้การจราจรระหว่างกรุงเทพฯ กับนนทบุรีสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
               ทว่าเมื่อรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้สภาการคลังถวายความเห็นเกี่ยวกับการสร้างถนนสายนี้ในเดือนตุลาคม

               พ.ศ. 2473 สภาการคลังมีมติว่ายังไม่ควรก่อสร้างถนนดังกล่าว เพราะขณะนั้นมีการก่อสร้างถนนหลายสายทาง

               ฝั่งธนบุรี เพื่อเตรียมรองรับการสร้างสะพานพระพุทธยอดฟ้าอยู่แล้ว  อย่างไรก็ดี ในพ.ศ. 2474 เกิดไฟฟ้าเสียที่


                                                            19
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31