Page 63 - kpi20863
P. 63

สามหลังนี้มีผังแบบอสมมาตร ตามรูปทรงที่ดินที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู และตามประโยชน์ใช้สอยของ

               โรงพยาบาล โดยอาคารด้านทิศเหนือ (ด้านถนนหลวง) ชั้นล่างเป็นส่วนอ านวยการโรงพยาบาล ชั้นที่สองและ
               สามเป็นห้องพักแพทย์และพยาบาล  อาคารด้านทิศตะวันออก (ด้านถนนเสือป่า) ชั้นล่างเป็นแผนกผู้ป่วยนอก

               และแผนกฉุกเฉิน ชั้นที่สองและสามเป็นหอพักผู้ป่วย  อาคารด้านทิศใต้และทิศตะวันตกเป็นหอพักผู้ป่วยทั้ง

               สามชั้น รวมเป็นโรงพยาบาล 193 เตียง ซึ่งมี “ทรวดทรงส าหรับอาคารแบบสมัยปัจจุบันอย่างเกลี้ยงเกลา ซึ่ง
               เหมาะเป็นโรงพยาบาลในที่ประชุมชน ลักษณะของแผนผังภายในได้กะเพื่อสะดวกแก่การเดิรไปมา ทั้งมีลิฟต์

               ส าหรับผู้คนและส่งอาหารขึ้นลงนอกจากบันไดด้วย” นอกจากนี้นายเบเกอแลงยังคิดให้สามารถสร้างอาคารได้

               เป็นช่วง (phase) ตามปีงบประมาณ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนจะเริ่มก่อสร้างในพ.ศ. 2473 และแล้วเสร็จสมบูรณ์
               ในพ.ศ. 2477  อย่างไรก็ดี โรงพยาบาลซึ่งสร้างด้วย “เฟโรคอนกรีต” อันทันสมัยนี้ก็มีงบประมาณที่สูงถึง

               515,870 บาท ท าให้สภาการคลังระงับโครงการนี้ไปในพ.ศ. 2472 นั้นเอง

                       อย่างไรก็ดี แบบร่างของนายเบเกอแลงแสดงให้เห็นถึงแนวทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่อย่างชัดเจน ทั้ง
               รูปทรงอาคารที่เรียบเกลี้ยง สะท้อนหน้าที่ใช้สอยภายใน การท าหลังคาตัด (flat roof) และกันสาดคอนกรีต

               เสริมเหล็กรอบอาคาร ท าให้เกิดเส้นนอนที่เป็นจังหวะสม่ าเสมอ ตัดกับจังหวะไม่สม่ าเสมอของช่องเปิดหน้าต่าง

               ในอาคารชั้นต่างๆ ที่ก าหนดต าแหน่งตามหน้าที่ใช้สอย


                       4.2.8 พระต าหนักทรงพรตและหอสหจร วัดบวรนิเวศวิหาร

                       พระต าหนักทรงพรต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นต าหนักที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับ
               ของพระมหากษัตริย์และเจ้าฟ้าทุกพระองค์ที่มาทรงผนวช ณ วัดนี้ ส่วนหอสหจรเป็นที่อยู่ของพระภิกษุที่จ า

               พรรษาโดยเสด็จในการทรงผนวช (ภาพที่ 4-27 และ 4-28) อาคารสองหลังนี้ตั้งอยู่ที่คณะต าหนัก ทางทิศใต้

               ของพระปั้นหย่า ต่อมาในรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และดัดแปลงอาคารใหม่ทั้งสองหลัง เพื่อทรง
               อุทิศส่วนพระราชกุศลถวายรัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระ

               ราชอุปัธยาจารย์ เป็นอาคารขนาดใหญ่ มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สูงสองชั้น มีใต้ถุน มุงหลังคาปั้นหยา วางอาคาร

               ขนานกันโอบล้อมลานตรงกลาง มีระเบียงยาวเกือบตลอดความยาวอาคารในด้านลานกลางนั้น มีบันไดทางขึ้น
               ชั้นสองที่ปลายระเบียงทั้งสองด้าน ทั้งยังมีทางเชื่อมระหว่างอาคารที่ชั้นบน โอบล้อมลานกลางทางด้านทิศใต้

               อีกด้วย  ลักษณะเด่นของพระต าหนักทรงพรตและหอสหจร คือการใช้โครงสร้างคอนกรีตโปร่งเบาในส่วน

               ระเบียงด้านหน้าอาคาร ราวกันตก ราวบันได และทางเชื่อม ลบมุมเสาและคาน ตลอดจนประดับบัวส่วนฐาน
               เสาให้ดูประณีตทว่าเรียบง่าย สมกับการเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ในการทรง

               ผนวช

                       เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ รัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชด าเนินในการฉลองพระต าหนัก และทรงหล่อ
               พระพุทธรูปฉลองพระองค์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.

               2472
                    19



                                                            92
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68