Page 109 - kpi21595
P. 109
ภาคพลเมืองที่ต้องติดตามดูแลการจัดการเรียนการสอนทุกครั้ง ทำให้ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอต่อการจัดหารถและ
อาหารสำหรับการนำนักเรียนพลเมืองไปทัศนศึกษา ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่าง
จริงจังว่า “โรงเรียนพลเมือง” ควรสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นในลักษณะที่เป็นระบบราชการเช่นนี้หรือไม่ในฐานะ
ที่มีจุดประสงค์การก่อตั้งเป็นองค์กรภาคประชาสังคม
อย่างไรก็ตาม จากบทสัมภาษณ์ของแกนนำพลเมืองอำเภอเมืองร้อยเอ็ดรวมไปถึงนักเรียนพลเมือง
หลายคนที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าตัวนักเรียนพลเมืองยังมีการรับรู้โรงเรียนพลเมืองในความหมายของ
“โรงเรียน” แบบดั้งเดิม ในแง่ที่เป็นสถานที่ถ่ายทอดวิชาความรู้เป็นหลัก พวกเขาไม่ได้เข้าใจว่าโรงเรียน
พลเมืองเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างคนในชุมชนและปราชญ์ผู้รู้จากภายใน
ชุมชนหรือภายนอกชุมชนตามที่สถาบันพระปกเกล้าตั้งใจให้เป็นตั้งแต่แรก พวกเขายังมีความเชื่อว่า นักเรียน
คือ “ผู้รับ” มากกว่า “ผู้ให้” ยังคงปรากฏให้เห็นจากบทสัมภาษณ์ข้างต้น ซึ่งความเข้าใจของนักเรียนพลเมือง
เช่นนี้ได้กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่กีดขวางการริเริ่มกิจกรรมอื่นๆที่นอกเหนือไปจากที่หลักสูตรกำหนดไว้
ข้างต้นเป็นส่วนของโครงการโรงเรียนพลเมืองที่แกนนำพลเมืองของอำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอพนม
ไพร และอำเภอเสลภูมิ เลือกดำเนินการในพื้นที่ของตน จะเห็นได้ว่ารูปแบบการสร้างความเป็นพลเมืองของ
โครงการโรงเรียนพลเมืองนั้น แม้จะตามทฤษฎีแล้วจะมีศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงความเป็น
พลเมืองได้ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติก็ยังพบว่ามีข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้ตัวโครงการโรงเรียนพลเมือง
ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพในการสร้างความเป็นพลเมืองได้เต็มที่ทั้งเงื่อนไขด้านการบริหารจัดการ การรับรู้
ของนักเรียนและการใช้งาน ในส่วนถัดไปผู้วิจัยจะกล่าวถึงรูปแบบการสร้างความเป็นพลเมืองของโครงการอื่นๆ
ที่แกนนำพลเมืองได้ดำเนินการในอำเภอของตนสู่คนในชุมชน โดยเริ่มต้นจากโครงการของอำเภอพนมไพร
อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอเสลภูมิ และอำเภอปทุมรัตต์ ตามลำดับคะแนนความเป็นพลเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป
เพื่อตรวจสอบว่ารูปแบบรูปแบบการสร้างความเป็นพลเมืองของโครงการเหล่านั้นแตกต่างกันในสาระสำคัญที่
อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการสร้างความเป็นพลเมืองที่แตกต่างกันหรือมไ
โครงการธรรมนูญรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการนี้จัดทำโดยแกนนำพลเมืองและนักเรียนพลเมืองพนมไพร โดยมีข้าราชการครูจาก
โรงเรียนดอนเสาโฮงผู้หนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในนักเรียนพลเมืองพนมไพรเป็นผู้ผลักดันให้เกิดการเปิดเวทีลงนามความ
ร่วมมือในธรรมนูญรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว สืบเนื่องจากโรงเรียนดอนเสาโฮงถูกคน
ในชุมชนบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะที่อยู่ในการดูแลของโรงเรียนเพื่อใช้เป็นที่ทำกินของตนมาเป็นเวลานาน
อันนำมาสู่การกระทบกระทั่งกันระหว่างโรงเรียนและคนในชุมชน ทำให้โรงเรียนมีความต้องการคืนป่าดอนเสา
โฮงบางส่วนที่ถูกบุกรุกคืนแก่กรมธนารักษ์เพราะเดิมพื้นที่นี้เป็นที่ราชพัสดุ จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาหารือกับ
เพื่อนนักเรียนพลเมืองโดยนำความรู้และแรงบันดาลใจจากวิทยากรในโรงเรียนพลเมืองเรื่องการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยใช้กลยุทธการเพาะเห็ดโคนต้นไม้มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ดังกล่าวด้วยการเชิญชวนให้คนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้เพื่อให้เห็ดที่เพาะไว้ที่โคนต้นไม้สามารถเติบโต
และสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนต่อไป ซึ่งเพื่อนนักเรียนพลเมืองเห็นชอบร่วมกันในการผลักดันให้มีการ
98