Page 131 - kpi21595
P. 131

ที่เป็นไปเพื่อส่งเสริมสำนึกพลเมืองอย่างมากต่างไปจากโครงการเสริมความรู้และศักยภาพในการเป็นพลเมือง

               และการมีส่วนร่วมทางการเมือง อาทิ โครงการโรงเรียนพลเมือง เป็นต้น
                       แม้ผลการศึกษาจะชี้ให้เห็นว่าชาวบ้านส่วนใหญ่มีความสนใจเข้าร่วมกลุ่มอาชีพต่างๆที่มีอยู่เป็นจำนวน

               มากในชุมชน อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติกลับพบว่าหลายโครงการต้องล้มเลิกไปเพราะขาดความต่อเนื่อง

               จริงจังและงบประมาณหมด ยกตัวอย่างข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ผู้นำท้องถิ่นตำบลพนมไพรอำเภอพนมไพรที่
               ชี้ให้เห็นว่าโครงการที่สนับสนุนงบประมาณมาเพื่อจัดทำปุ๋ยหรือเห็ดตามแต่ที่ชาวบ้านต้องการนั้น ในแง่หนึ่งดี

               เพราะเสริมรายได้ให้แก่คนในชุมชนเนื่องจากชาวบ้านจะได้ค่าจ้างรายวัน อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวก็ไม่
               ต่อเนื่องหากทุนหมดโครงการก็ต้องสิ้นสุดลงไป “คือตอนนี้โครงการมันอาจจะดีแต่ว่าที่ทำไปในตอนนี้ปัจจุบันนี้

               มันอาจเหลือแต่วิญญาณ คือไม่ต่อเนื่อง อย่างตำบลพนมไพร จะทำต้นกล้าพืชสมุนไพรแต่ว่าตอนนี้มันอาจจะ

               ได้หายไปแล้ว...ตอนนี้ต้นทุนที่รัฐบาลสนับสนุน 4-5 แสนก็หมดไป ตอนนี้ไม่เหลือ ไม่คืบหน้า คือว่าอันนี้ไม่มี
               ประโยชน์” เมื่อผู้วิจัยสอบถามว่าทำไมทุนถึงหมดไปก็ได้ความว่า “มันหมดไปเพราะเราไม่ได้ดูแลรักษา คือ

               น้อยใจตรงนี้ คือพวกที่ทำนั้นอาจจะได้ผลอยู่ตอนแรกแต่ว่าในขั้นต่อไป เราไม่ได้ดำเนินการต่อ ไม่ได้ให้
               โรงพยาบาลไปปลูกไปทำต่อ เพื่อส่งเสริมอะไร คือมันเลยไม่ต่อเนื่อง ลงทุนแล้วไม่มีประโยชน์ ที่จริงเป็น

               โครงการที่ดีแต่ว่าเราไม่สามารถนำไปให้เป็นประโยชน์นำไปต่อยอดได้” จากบทสัมภาษณ์นี้สะท้อนให้เห็นได้

               เป็นอย่างดีว่าโครงการที่เป็นไปเพื่อส่งเสริมอาชีพและเศรษฐกิจโดยไม่ได้ส่งเสริมความรู้เรื่องสำนึกพลเมือง
               ตลอดจนตระหนักในปัญหาและต้นทุนที่ตนเองมีอย่างแท้จริงนั้นและไม่ได้เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมคิดของ

               คนในชุมชนตั้งแต่แรกนั้นย่อมไม่สามารถผลักดันโครงการให้เติบโตต่อเนื่องได้ เมื่อโครงการประเภทที่มุ่ง

               ส่งเสริมเศรษฐกิจแก่คนในชุมชนจำนวนมากล้มลุกคลุกคลานไม่ประสบความสำเร็จ ปัญหาความยากจนและ
               คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนจึงไม่ได้รับการแก้ไขและพัฒนาอย่างแท้จริง การกู้ยืมเงินจากกองทุนต่างๆที่ก่อตัว

               ขึ้นเป็นจำนวนมากในชุมชนกลายเป็นอีกทางออกหนึ่งที่พบได้มาก แต่เมื่อเงื่อนไขทางด้านเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อ
               การหารายได้มาคืนเงินต้นและดอกเบี้ยแล้ว วงจรของหนี้สินจึงไม่หมดไป เรื่องของหนี้สินจึงกลายเป็นอีกปัจจัย

               หนึ่งที่ทำให้คนในชุมชนไม่เพียงแต่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพเท่านั้นแต่ยังต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินมาใช้หนี้กองทุน

               ต่างๆที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในชุมชนอีกด้วย อันส่งผลกระทบกับความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นใน
               ลักษณะของการเป็นอาสาสมัครกิจกรรมที่เน้นการเสริมความรู้มากกว่าเสริมรายได้เพราะทำให้พวกเขาต้อง

               เสียสละเวลาส่วนหนึ่งจากการหารายได้ไป
                       นอกเหนือจาก เงื่อนไขทางด้านเศรษฐกิจจะขัดขวางต่อการเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นไปเพื่อพัฒนาความ

               เป็นพลเมืองแล้ว โครงการที่เป็นไปเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจหลายโครงการก็มีลักษณะที่ขัดแย้งกับคุณลักษณะ

               ความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยหลายมิติ ทั้งนี้เพราะโครงการพัฒนาอาชีพต่างๆนั้นมักจะมาพร้อม
               กับเงินทุนสนับสนุนก้อนหนึ่ง ทำให้มีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้คนในชุมชนใช้เงินในทางที่ผิดและประพฤติตัว

               ในทางแสวงหาประโยชน์จากกองทุนนั้นในระยะสั้น และจากบทสัมภาษณ์ข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า

               สภาพแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจและหนี้สินที่บีบคั้น ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งหารายได้ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้
               พวกเขามีจุดเน้นไปที่ “ตนเอง” และ “ครอบครัวของตนเอง” เป็นหลักอันอาจนำไปสู่การมีพฤติกรรมที่ไม่

               ตรงไปตรงมาในการรับเงิน ในบางกรณีอาจถึงขั้นยอมละเว้นจริยธรรมเรื่องความซื่อสัตย์ของพลเมืองเพื่อแลก


                                                                                                       120
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136