Page 41 - kpi21595
P. 41

ของพวกเขามากขึ้น ดังนั้น แม้ข้อมูลที่เข้ามาใหม่จะเป็นเหตุเป็นผลเพียงใด แต่หากข้อมูลนั้นค้านกับข้อมูลที่ผู้

               นั้นเชื่ออยู่ก่อนหน้า คนมีแนวโน้มจะพิจารณาข้อมูลก่อนหน้าเป็นอันดับแรกซึ่งเป็นลักษณะทางจิตวิทยาในเรื่อง

               ของการธำรงความสอดคล้องทางความคิด
                       กล่าวโดยสรุปได้ว่า เงื่อนไขภายใน การรับรู้ และความเข้าใจของบุคคลนับเป็นปัจจัยภายในที่สำคัญ

               และอาจส่งผลต่อการแสดงออกซึ่งความเป็นพลเมืองที่ตระหนักรู้และกระตือรือร้นให้แตกต่างกันออกไปใน
               บุคคลแต่ละคน อย่างไรก็ตาม แรงจูงใจทางการเมืองนั้นอาจมองได้ว่าเป็นเหรียญคนละด้านกับกระบวนการขัด

               เกลาทางสังคมการเมืองและวัฒนธรรมทางการเมือง เพราะการศึกษาและพื้นฐานทางครอบครัวที่แตกต่างกัน
               อาจส่งผลให้ผู้นั้นมีแรงจูงใจทางการเมืองและมีวัฒนธรรมทางการเมืองที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้ ในส่วน

               ถัดไปผู้เขียนจะกล่าวถึงแนวคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมืองโดยสังเขปเพื่อช่วยสร้างความเข้าใจการสร้างความ

               เป็นพลเมืองโดยเชื่อมโยงปัจจัยภายในเข้ากับปัจจัยภายนอก อาทิ ปัจจัยด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ให้
               มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่านอกเหนือจากปัจจัยภายในแล้ว ปัจจัยภายนอกก็นับเป็นอีกเงื่อนไขสำคัญที่จะ

               ส่งเสริมหรือขัดขวางต่อการแสดงออกทางการเมืองของปัจเจกบุคคล


               แนวคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง (Political Culture)

                       สำหรับแนวคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมืองในที่นี้ ผู้เขียนขอยกคำอธิบายของ Almond และ Verba
               มากล่าวไว้ เนื่องจากเป็นงานชิ้นแรกๆที่ศึกษาเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง โดย Almond และ Verba ได้ให้

                                                                                     25
               คำอธิบายเรื่องวัฒนธรรมทางการเมืองไว้ในงานของเขาที่ชื่อว่า The Civic Culture   โดยในงานชิ้นนี้เขาได้
               แบ่งประเภทวัฒนธรรมทางการเมืองไว้ 3 กลุ่มใหญ่ๆตามแบบแผนของทัศนคติ (attitudes) และความโน้ม
               เอียง (orientations) ทางความคิดและพฤติกรรมของผู้คนในสังคมอันเป็นผลมาจากโครงสร้างและวัตถุ

               ทางการเมือง อาทิ ระบบการเมือง ระบบราชการ กฎหมายและกติกาต่างๆในสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อการ
               แสดงออกในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของพลเมืองที่แตกต่างกันออกไป

                       สำหรับวัฒนธรรมทางการเมืองประเภทแรก คือ วัฒนธรรมแบบแบบคับแคบ (parochial) ผู้ที่มี

               วัฒนธรรมประเภทนี้จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับระบบการเมืองและสถาบันการเมือง อาจเนื่องด้วยความ
               ห่างไกล ความไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร ไม่ใส่ใจ จึงส่งผลให้พวกเขาเข้าใจไปว่าระบบการเมือง

               นั้นไม่มีผลต่อการตัดสินใจดำเนินชีวิตของพวกเขา คนกลุ่มนี้จึงไม่สนใจเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ในที่
               Almond ยกตัวอย่างสังคมชนเผ่าในอัฟริกา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากนำคำอธิบายดังกล่าวมาพิจารณาใน

               บริบทของสังคมไทยอาจจะมองได้ว่าผู้ที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและสถาบันทางการเมืองเช่นในอำเภอที่

               ห่างไกล ทุรกันดาร ก็อาจจะมีความสัมพันธ์กับระบบการเมืองค่อนข้างน้อยได้เช่นกัน
                       สำหรับวัฒนธรรมทางการเมืองประเภทที่สองเรียกว่า วัฒนธรรมการเมืองแบบไพร่ฟ้า (subject)

               ซึ่ง Almond อธิบายว่า คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องระบบการเมือง สถาบันการเมือง กฎ

               กติกาต่างๆและรู้ว่าระบบการเมืองนั้นเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของพวกเขาอย่างไร กระนั้น คนกลุ่มนี้มักจะ




               25  พฤทธิสาณ ชุมชน, ม.ร.ว. (2548) อ้างแล้ว.

                                                                                                       30
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46