Page 186 - 21736_Fulltext
P. 186
165
อาจารย์อติชาต: ต้องปรับคู่กรณีให้เท่ากัน บางกรณีมีผู้ปกครองมาแต่อีกฝ่ายไม่มี
ผู้ปกครองก็จะเป็นฝ่ายพูด อีกฝ่ายพูดอะไรไม่ออก เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ การขอโทษและเขียวยา
ซึ่งกันและกัน เยียวยาความรู้สึกและสิ่งที่สูญเสีย เช่น กรณีต่อยเพื่อนแว่นแตก ผู้ก่อเหตุยอมจ่ายค่า
รักษาพยาบาล ชดใช้ค่าวัสดุที่เสียหาย
อาจารย์วรรณสวัสดิ์: คู่กรณีต้องสมัครใจที่จะใช้กระบวนการนี้
อาจารย์อาจารย์นเรศ: เปิดใจคุยกัน เข้าใจกระบวนการไกล่เกลี่ย เห็นความสำคัญของ
การไกล่เกลี่ย (มีความศักดิ์สิทธิ์) จบด้วยความเข้าใจ ต้องหาปมให้เจอ เข้าถึงข้อมูลในเชิงลึกซึ้ง บาง
กรณีเรื่องอาจจะไม่จบเพราะคู่กรณีเองก็มี
นายอภิชัย: ยอมเข้ามาคุยกัน ให้ทั้ง 2 ฝ่ายอารมณ์เย็นก่อน
นายเมธี: ยอมขอโทษ พูดจาดีด้วย / มีข้อตกลง
นายภัทรภูมิ: มีวุฒิภาวะในการคุยกับคู่กรณี มีสติ
อาจารย์ณัทธสิฐษ์: เจ้าตัวยอมไกล่เกลี่ย ยอมรับฟัง อยากพูดนำเสนอ ไม่ปิดตัวเอง บอก
ความต้องการ ยอมรับความจริง ยอมรับกฎระเบียบ
ผศ.ดร.วันวร: คู่กรณีมีความต้องการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ปัจจัยหลากหลาย เช่น ขึ้นอยู่
กับการเลี้ยงดู
4.3 การสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจควรมีหรือไม่ อย่างไร
อาจารย์วราวุฒิ: ควรมีความไว้วางใจกัน นำข้อเท็จจริงมาพูด หาวิธีการยอมรับข้อตกลง
ร่วมกัน
อาจารย์วรรณสวัสดิ์: เด็กจะไว้วางใจว่าอาจารย์จะให้ความยุติธรรม แต่อาจจะไม่เสมอ
ไป สร้างสัมพันธภาพให้คู่กรณีพูดความจริง ถ้าเปิดใจกันไม่ได้ก็จะยากในการได้รับข้อเท็จจริง
อาจารย์อติชาต: เกี่ยวกับเรื่องของบุคลิกภาพด้วย คือ บางคนอาจจะไว้วางใจ บางคนไม่
ไว้วางใจ แต่ส่วนที่จะเสริมให้เกดความไว้วางใจเพิ่มขึ้น คือลักษณะการตั้งคำถามของคนกลาง และ
การฟังอย่างตั้งใจ
อาจารย์อาจารย์นเรศ: จบด้วยความเข้าใจ ต้องหาปมให้เจอ เข้าถึงข้อมูลในเชิงลึก แต่
เดิมเด็กจะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เมื่อเกิดเหตุและได้พูดคุยถึงสาเหตุก็จะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
อาจารย์ฐิติ: อาจารย์จะรู้จักมักคุ้นเด็กมาก่อน รู้สถานะกันมาก่อนอยู่แล้วทำให้การ
พูดคุยง่ายขึ้น ให้ทราบถึงนโยบายของมหาวิทยาลัย ให้รู้ถึงเจตนาของการไกล่เกลี่ยเด็กก็จะเกิดความ
เข้าใจ
นายภัทรภูมิ: ไว้วางใจคนกลางเป็นอันดับแรก ถ้าไม่รู้จักกันและทะเลาะกันเรื่องจะจบ
ง่ายกว่า
นายเมธี: ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ไว้วางใจคนกลาง เพราะคนกลางเป็นคนพูดโน้มน้าว