Page 9 - 21736_Fulltext
P. 9
ช
2.5.2 ระบบการจัดการที่ดี และสถานที่ไกล่เกลี่ยควรมีความเป็นส่วนตัว มีบอร์ดแผนภูมิ
ขั้นตอนการไกล่เกลี่ย มีเอกสารและมีกฎหมายที่ชัดเจน
2.5.3 บุคลากรที่ทำหน้าที่ควรมีองค์ความรู้ด้านการไกล่เกลี่ยและเรื่องของการจัดการ
และมีความต่อเนื่องในการไกล่เกลี่ย
2.6 การเผยแพร่ความรู้และการเรียนรู้
การให้ความรู้ควรกระจายสู่ครูอาจารย์และนักเรียน ไม่ใช่เฉพาะตัวผู้ไกล่เกลี่ย
3. ข้อเสนอแนะจากงานวิจัย
จากข้อเสนอแนะของผู้ให้ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจากการสังเกตการณ์ผู้วิจัยมี
ข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้
3.1 กระบวนการไกล่เกลี่ยควรทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยสามารถให้ข้อมูลได้
อย่างเต็มที่ จึงควรจัดสถานที่ไกล่เกลี่ยให้มีความเป็นส่วนตัว เป็นสัดส่วน เป็นความลับ มีบรรยากาศ
ที่ผ่อนคลายหรือรู้สึกสบายใจเมื่อเข้ามาใช้บริการ
3.2 สร้างและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสันติวัฒนธรรมและการไกล่เกลี่ยให้กับบุคลากรทุกคน
ในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจูงใจให้ผู้บริหารผลักดันและดำเนินงานด้านการไกล่
เกลี่ย
3.3 เผยแพร่ให้รู้จักงานไกล่เกลี่ยมากขึ้น มีช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายเพื่อทำ
ให้เห็นถึงประโยชน์ของการมาพูดคุยกันอย่างมีกติกาและนำไปสู่ทางออกที่เป็นความพึงพอใจของทุก
ฝ่าย
3.4 เพิ่มทีมผู้ไกล่เกลี่ยให้มากขึ้นทั้งในระดับมัธยมศึกษาและในระดับมหาวิทยาลัย โดยให้รุ่น
น้องเรียนรู้งานดังกล่าวจากรุ่นพี่
3.5 สร้างสันติวัฒนธรรมในเชิงป้องกันความขัดแย้งผ่านโครงการและกิจกรรมที่หลากหลาย
ไม่จำเป็นต้องเน้นทำงานเฉพาะด้านการไกล่เกลี่ยเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
3.6 ข้อตกลงที่ได้จากการไกล่เกลี่ยควรมาจากการเสนอแนะของคู่กรณี และสอดคล้องกับกฎ
กติกาของสถานศึกษาที่ได้กำหนดไว้ เช่น ได้รับโทษทางวินัยน้อยลงเมื่อคู่กรณีสำนึกยอมรับและพร้อม
รับผิดชอบต่อคู่กรณี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่าไกล่เกลี่ยแล้วไม่ต้องรับโทษอะไรเลย
3.7 เก็บรวบรวมข้อมูลด้านสันติวัฒนธรรมและการไกล่เกลี่ยอย่างเป็นระบบเพื่อรวบรวม
และส่งต่อข้อมูลให้รุ่นน้องได้ศึกษาต่อไป