Page 120 - kpiebook62001
P. 120
Sumarto et al. (2001) พบว่าสัดส่วนคนที่ไม่ยากจนที่เข้ามาสู่โครงการจ้างงานนี้อาจสูงถึงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ในขณะ
ที่คนยากจนที่แท้จริงเข้าถึงเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ แสดงถึงปัญหาความคลาดเคลื่อนในการเจาะจงที่สูงมาก นอกจากนี้
สัดส่วนการจ้างงานยังกระจุกตัวอยู่เพียงแต่ในเพศชาย
โครงการจ้างงานอีกรูปแบบได้รับการพัฒนาต่อมาในปี 1999 โครงการในชื่อ Empowering the Regions to
Overcome the Impact of the Economic Crisis Program ( Pemberdayaan Daerah dalam Mengatasi
Dampak Krisis Ekonomi or PDM-DKE) โครงการนี้ต่างไปจากเดิมโดยให้เน้นให้เงินทุนไปที่โครงการก่อสร้างในพื้นที่ที่
ใช้แรงงานเป็นหลัก และให้สินเชื่อกับกลุ่มคนยากจนเพื่อการประกอบกิจการขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงโอกาส
การจ้างงานสินเชื่อในโครงการนี้ยังอาศัยวิธีการเจาะจงด้วยตนเอง และไม่ต่างไปจากเดิม โครงการ PDM-DKE ก็ยัง
ประสบปัญหาการรั่วไหลของเงินทุนจากการบริหารเงินทุนด้วยท้องถิ่น การเจาะจงยังคลาดเคลื่อนไปจากเดิม โดยใน
กรณีของสินเชื่อเพื่อช่วยคนยากจน กรรมการในระดับท้องถิ่นกลับมักจะพิจารณาให้คนที่ไม่ได้ยากจนได้รับสินเชื่อแทน
เนื่องจากต้องการเพิ่มโอกาสที่สินเชื่อจะได้รับการจ่ายคืน (Perdana and Maxwell, 2005)
โครงการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต้องการลดปัญหาการขาดแคลนอาหารในคนยากจนผ่านการแจก
ข้าวสารให้กับครัวเรือนที่ยากจน (Ramesh 2004) กระบวนการเจาะจงของโครงการนี้มีลักษณะคล้ายกับการเจาะจง
ของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประเทศไทย กล่าวคือใช้การเจาะจงผ่านฐานข้อมูลคนยากจนที่ได้รับการส ารวจไว้
โดยรัฐ ฐานข้อมูลดังกล่าวได้รับการอธิบายถึงไว้ในข้างต้น ก็คือฐานข้อมูล National Family Planning Coordinating
Board (BKKBN) โดยการแจกจ่ายข้าวสารนั้นมุ่งเป้าไปที่ครัวเรือนที่ได้รับการส ารวจแล้วว่าอยู่ในฐานะยากจน อย่างไรก็
ตาม ภายหลังจากที่ได้มีการพัฒนาฐานข้อมูลเพิ่มเติมให้มีการแบ่งครัวเรือนเป็นระดับความยากจนมากและยากจนน้อย
ก็ได้มีการเพิ่มครัวเรือนระดับความยากจนน้อยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเช่นกัน
โครงการสร้างความมั่นคงทางอาหารในระยะเริ่มแรกเกินในชื่อ OPK program โดยงานที่ศึกษาโครงการนี้พบ
ปัญหาเช่นการขาดการกระจายข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ ปัญหาที่ส าคัญของโครงการนี้ยังเกิดในรูปแบบการเจาะจงที่
คลาดเคลื่อน แม้ว่าจะมีการใช้ฐานข้อมูลจากภาครัฐในการคัดกรองครัวเรือนยากจน แต่กลับพบว่าโครงการสามารถ
เข้าถึงครัวเรือนยากจนได้เพียง 52.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกจากนี้ ครัวเรือนที่มีฐานะกลับกลายเป็นผู้ได้รับประโยชน์
หลัก ความคลาดเคลื่อนของการเจาะจงนั้นอาจเกิดอย่างเป็นส าคัญจากการบริหารงานในระดับท้องที่ ที่เป้าหมายการ
กระจายประโยชน์เปลี่ยนไปแปลงไปเป็นการกระจายให้คนอื่น ๆ ที่ไม่ยากจนได้เข้าถึงเช่นกัน ท าให้แต่ละครัวเรือนกลับ
ได้รับข้าวสารในจ านวนที่น้อยลง (Olken et al., 2001)
ภายหลังจากช่วงเวลาเริ่มแรกที่ประสบปัญหา รัฐบาลอินโดนีเซียพยายามปรับปรุงโครงการนี้ให้มีความรัดกุม
ยิ่งขึ้น รวมถึงมีการก าหนดปริมาณข้าวสารขั้นต่ าที่ครัวเรือนยากจนจ าเป็นต้องได้รับ โครงการ OPK ได้รับการเปลี่ยนชื่อ
ใหม่เป็น Raksin (Rice for Poor Families) เพื่อเน้นว่าข้าวที่แจกจ่ายไปนั้นเพื่อให้คนยากจนเท่านั้น นอกจากนี้
กระบวนการเจาะจงยังปรับเปลี่ยนไปใช้การค านวนโควตาข้าวที่จะลงไปสู่แต่ละจังหวัดก่อน โดยใช้ข้อมูลจาก BKKBN
ก่อนจะให้รัฐบาลท้องถิ่นไปค านวนปริมาณข้าวที่จะแจกจ่ายไปในแต่ละพื้นที่ในจังหวัดของตนเองอีกทีหนึ่ง โดยในระดับ
111