Page 101 - kpiebook62001
P. 101
เปลี่ยนแปลงไปตามจ านวนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ได้รับสวัสดิการ และข้อสุดท้าย ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่มีการ
เสนอหรือมีความเกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกที่ยังไม่ได้รวมเข้ามา เช่น การยกเว้นให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่
ต้องจ่ายค่าบริการตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการ
อินเตอร์เน็ตส าหรับผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ฯลฯ ซึ่งโครงการเหล่านี้อาจเพิ่ม
ต้นทุนในอนาคต ดังนั้น ผู้น าไปวิเคราะห์และศึกษาต่อจะต้องตระหนักถึงข้อจ ากัดของข้อมูลในตารางนี้
ในแง่ของ ต้นทุนการบริหารจัดการ ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการผลิตและจัดส่งบัตร ค่าใช้จ่ายบริการ
ระบบและค่าจัดตั้งทีม Call center ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการติดตั้งและใช้งานเครื่อง EDC ค่าธรรมเนียมในการบริหาร
จัดการรายปี รวมค่าบริหารจัดการโครงการ ค่าควบคุมงานและบริหารระบบต่าง ๆ รวมถึงการบริหารฐานข้อมูลและ
จัดท า Dashboard & Data Analytics รายการดังกล่าวอยู่ในการเสนอขออนุมัติงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่
รวม ต้นทุนการรับลงทะเบียนของหน่วยลงทะเบียน ในเอกสารที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเรื่องโครงการลงทะเบียนเพื่อ
สวัสดิการแห่งรัฐ พ.ศ. 2560 ระบุไว้ว่า
“โครงการลงทะเบียนฯ ปี 2560 ไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยเป็นการขอความร่วมมือและการสนับสนุน
จากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง”
ข้อความดังกล่าวปรากฏในเอกสารโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ศ. 2559 เช่นกัน หมายความว่า
หน่วยรับลงทะเบียนจะต้องแบกรับต้นทุนนี้ไว้เอง และจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่จากหน่วยรับลงทะเบียนของธนาคาร
แห่งหนึ่ง พบว่าต้นทุนที่เกิดขึ้นกับหน่วยรับลงทะเบียน ได้แก่ การท างานล่วงเวลา เนื่องจากมีกรอบเวลาที่ต้องส่งข้อมูลผู้
ขอรับบัตรไปยังส่วนกลาง การให้บริการที่ไม่ทั่วถึง เนื่องจากมีผู้เข้ามาลงทะเบียนจ านวนมาก ท าให้การบริการลูกค้า
หลักของธนาคารด้อยลงไป การรับลงทะเบียนแต่ละคนอาจใช้เวลานาน เนื่องจากบางคนไม่สามารถเขียนหนังสือได้ หรือ
การสอบถามข้อมูลและท าความเข้าใจข้อค าถามเรื่องรายได้และทรัพย์สินจะต้องชัดเจน บางคนไม่สามารถประมาณการ
รายได้ของตนเองได้ ธนาคารยังมีต้นทุนในการออกเอกสารและเก็บเอกสารส าหรับผู้มาลงทะเบียนไว้ด้วย สุดท้าย
เจ้าหน้าที่ธนาคารซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการได้รับทราบข้อมูลจากส านักงานใหญ่ และจะต้องรีบเข้ารับการอบรมและเตรียมตัว
ในเวลาอันสั้น (ประมาณ 1 สัปดาห์) ก่อนที่มาตรการต่าง ๆ จะใช้จริง ซึ่งเป็นเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด
แม้ว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจและหน่วยงานของรัฐที่รับลงทะเบียนจะเป็นหน่วยงานที่ต้องให้ความร่วมมือกับ
นโยบายภาครัฐ แต่การบริหารจัดการต่าง ๆ ย่อมมีต้นทุนเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย อีกทั้งหากมีการเปิดรับลงทะเบียนหรือ
เก็บข้อมูลครั้งต่อไป ก็จะต้องมีต้นทุนเหล่านี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาต้นทุนเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนยิ่งขึ้น หรืออาจจะ
ต้องจัดท าแผนในระยะยาวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสามารถเตรียมความพร้อมได้ ทั้งนี้ โดยหลักการแล้วควรมีการเก็บ
ข้อมูลใหม่ทุกปีเพื่อปรับข้อมูลของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ทันสมัยอย่างสม่ าเสมอ แต่การได้มาซึ่งข้อมูลก็จะต้องแลก
ได้แลกเสียกับการบริหารจัดการ ซึ่งอาจรวมถึงการออกบัตรใหม่และค่าจัดส่ง รวมถึงค่าบริหารจัดการข้อมูลในการตัด
สิทธิผู้ที่มีรายได้เกินหรือไม่เข้าเงื่อนไข
ส าหรับ ต้นทุนของโครงการ หากตั้งข้อสมมติว่าในปี พ.ศ. 2561 มาตรการหลักใช้งบประมาณเท่ากับปี พ.ศ.
2560 และคิดรวมกับจ านวนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มขึ้นจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน อีก 3.1 ล้านคนแล้ว
92