Page 242 - kpiebook62016
P. 242
225
3. การเห็นพ้องยอมรับในรัฐธรรมนูญ
การยอมรับในความชอบธรรมของเนื้อหา กระบวนการร่าง และผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็น
ขั้นตอนที่ส าคัญอย่างยิ่งยวด ในการ “จัดเตรียมพื้นดิน” (Preparing the ground) ส าหรับหว่านเพาะ
กล้าพันธุ์ประชาธิปไตย การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่ส าเร็จ กล่าวคือ ไม่ออกจากประชาธิปไตย
และย้อนคืนสู่ระบอบอ านาจนิยม มักมีกระบวนการและขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน
ต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนมีการเลือกตั้ง ขั้นตอนดังกล่าวเริ่มด้วย ฝ่ายค้านได้รับอนุญาตให้รวบรวมเสียง
สนับสนุนเพื่อท้าทายฝ่ายบริหารหรือผู้ปกครองซึ่งก ากับดูแลการเปลี่ยนผ่าน เพื่อที่ฝ่ายค้านจะได้มี
โอกาสแสดงตัวเป็นทางเลือก และคู่แข่งผู้บริหารประเทศที่ครองอ านาจอยู่เดิม
ปรากฏการณ์ในหลายประเทศชี้ว่า การร่างและสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ภายหลังการเปลี่ยน
ผ่านเข้าสู่ประชาธิปไตยได้เริ่มต้นขึ้น เป็นกระบวนการที่ส าคัญและจ าเป็นมาก แต่กระนั้นก็ไม่จริงเสมอ
ไป 4 ใน 8 ประเทศที่ศึกษา ไม่ได้เริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยด้วยการร่าง
รัฐธรรมนูญใหม่ แต่เป็นการน ารัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่เดิมมาแก้ไข เปลี่ยนแปลง
ในอินโดนีเซีย การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยยังคงเปล่งประกายแห่งความส าเร็จ ทั้งๆ ที่ยัง
ธ ารงรักษารัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ร่างตั้งแต่ ค.ศ. 1945 ไว้ โดยเปลี่ยนแปลงแก้ไขเป็นระลอก โปแลนด์
ไม่ได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในทันที ในช่วงแรกของการเปลี่ยนไปสู่เสรีประชาธิปไตย โปแลนด์น า
รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1952 ในยุคคอมมิวนิสต์มาปรับใช้โดยน าระบบสภาคู่กลับมา คือให้มีวุฒิสภาอีกครั้ง
และเพิ่มอ านาจของฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐสภา ยกเลิกต าแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และติดตั้ง
อ านาจตุลาการที่เป็นอิสระ จนกระทั่งหลายปีต่อมา รัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1952 ที่ใช้ในสมัยคอมมิวนิสต์
จึงถูกยกเลิกไป และถูกแทนที่ด้วยรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1997 ที่ได้รับความร่วมมือในการร่างและมีมติ
เห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาที่มาจากทั้งพรรคคอมมิวนิสต์ในระบบเก่าและพรรคการเมืองในระบบใหม่
และผ่านการท าประชามติเห็นชอบจากประชาชนในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1997
หลังการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยในชิลี ก็ยังคงใช้รัฐธรรมนูญที่ร่างภายใต้รัฐบาลทหาร
โดยแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้รัฐบาลพลเรือนที่ได้รับเลือกตั้งมาแทนที่รัฐบาลทหาร
จะเสียเปรียบ แต่เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเมืองในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน รัฐบาลพลเรือน
ของชิลีจึงใจเย็นพอที่จะรอคอยจังหวะที่เหมาะสม เมื่อฐานสนับสนุนแข็งแกร่งและได้รับความนิยมมาก