Page 258 - kpiebook62016
P. 258

241







                       อย่างใหญ่หลวงที่สุดคือ ความกลัวประชาชน ผลก็คือ รัฐธรรมนูญปฏิกิริยาที่ต่อต้านอ านาจประชาชน
                       นอกจากนี้ การร่างรัฐธรรมนูญของไทย ยังไม่เชื่อมโยงกับพื้นฐานทางภูมิปัญญาและประสบการณ์ทาง

                       ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ส าคัญขาดเป้าหมายในเชิงอุดมคติ ไม่สามารถเป็นเครื่องมือที่ท าให้เยาวชน

                       และคนในวัยใดๆ ใฝ่ฝันหรือจินตนาการถึงอนาคตได้ว่า สังคมในวันข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าวันนี้อย่างไร ด้วย

                       เครื่องมืออะไร ลูกหลานและสังคมเป็นอย่างไร แทนการฝันถึงวันวานแบบเก่าที่ผ่านพ้นไปแล้ว

                              2.  บทบาทของทหารในการเมือง


                              ในประเทศที่เคยมีอดีตอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร และกองทัพยังคงความแข็งแกร่งอยู่

                       เช่นประเทศไทย การเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพดูเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่จะเกิดได้จริง แต่ยิ่งทหารและ

                       กองทัพมีความส าคัญต่อระบบการเมืองมากเท่าใด สังคมยิ่งต้องให้ความส าคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
                       อันที่จริงไม่ใช่เฉพาะทหาร หรือกองทัพที่ต้องอยู่ภายใต้ระบบตรวจสอบที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ

                       แต่เป็นเรื่องการออกแบบระบบที่ท าให้มีเครื่องมือตรวจสอบทั้งนักการเมือง ทหาร คนดี และคนเลว


                              ในสังคมไทยทหารปฏิบัติการในฐานะอ านาจยับยั้ง (Veto  power) ที่อยู่นอกระบบตรวจสอบ

                       ถ่วงดุลและกลไกของระบบรัฐสภาแบบตัวแทน แต่ประสบการณ์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ชี้

                       ตรงกันว่า การรัฐประหารหรือใช้ความรุนแรงโดยคณะทหารมักไม่ประสบความส าเร็จในการน าพา

                       ประเทศใดๆ ไปสู่ประชาธิปไตย ประวัติศาสตร์บันทึกถึงความล้มเหลวจ านวนมากของการรัฐประหาร

                       และการกบฎที่ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก นอกจากการเปลี่ยนการถือครองอ านาจจาก

                       ชนชั้นน ากลุ่มหนึ่งไปยังชนชั้นน าอีกกลุ่มหนึ่ง ภายในระบอบอ านาจนิยมแบบเดิม หรือเผด็จการ

                       รูปแบบใหม่


                              เมื่อเปรียบเทียบการรัฐประหารกับการประท้วงต่อต้านโดยประชาชน (Broad-based popular

                       movement)  แล้วจะพบว่า การชุมนุมโดยประชาชนมีแนวโน้มน าไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่วางรากฐาน

                       ไปสู่ประชาธิปไตยได้ดีกว่า เช่น ปรากฏการณ์ที่เกิดในเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา ตูนิเซีย

                       ยูเครน และโปแลนด์ ในประเทศเหล่านี้ มีจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยร่วมกันที่มา

                       จากการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในระบอบอ านาจนิยมหลังเกิดวิฤติเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลไม่สามารถ

                       แก้ปัญหาตามความคาดหวังของประชาชนได้ เหตุผลที่การชุมนุมประท้วงของประชาชนมีโอกาส

                       น าไปสู่ประชาธิปไตยได้มากกว่าการรัฐประหาร เพราะว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นการรวม
   253   254   255   256   257   258   259   260   261   262   263