Page 255 - kpiebook62016
P. 255
238
คะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ที่ก าหนด การออกแบบรัฐธรรมนูญให้ฝ่ายบริหารเข้มแข็ง (Strong executive)
โดยสร้างเกราะไม่ให้ถูกตรวจสอบเช่นนี้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ท าให้คนในสังคมไม่พอใจ และเรียกร้องให้มี
การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนในที่สุดบานปลายและน าไปสู่การรัฐประหารใน พ.ศ. 2549 ส่วนใน
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และ 2560 ปรากฏชัดเจนมากในบทบัญญัติต่างๆ ว่าไม่ต้องการได้รัฐบาลที่
เข้มแข็ง แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาคือ ท าให้ระบบการเมืองอ่อนแอ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจ
ของคนในประเทศ และแน่นอนว่า ระบบการเมืองที่อ่อนแอย่อมไม่มีพลังขับเคลื่อนให้สามารถเปลี่ยน
ผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้
ในประเด็นว่านายกรัฐมนตรีจ าเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ ดูเหมือนยังไม่มีข้อยุติ
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้เปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีอาจไม่จ าเป็นต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
โดยให้พรรคเสนอรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 3 คน เท่ากับเปิดโอกาสให้มีนายกรัฐมนตรีที่ไม่
ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคนที่พรรคเสนอชื่ออาจไม่ใช่คนที่ประชาชนชอบ ส่งผลให้เสียงของประชาชน
ไร้ความหมาย เมื่อคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนมีโอกาสที่จะไม่ส่งผลอย่างแท้จริงในการจัดตั้ง
รัฐบาล เปิดช่องให้เจตนารมณ์ของประชาชนถูกน าไปกล่าวอ้างบิดเบือน ความรู้สึกมีประสิทธิภาพทาง
การเมือง (Political efficacy หมายถึงความไว้ใจ ความศรัทธา และตระหนักว่าเสียงของตนมีอิทธิพล
ต่อการก าหนดทิศทางการเมือง) ของประชาชนจะต ่าลง จนอาจท าให้ลดความสนใจและความต้องการ
มีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งย่อมส่งผลโดยตรงต่อการจรรโลงประชาธิปไตยหลังการเลือกตั้ง
1.3 แนวทางท าให้พรรคการเมืองเป็นสถาบัน จุดอ่อนส าคัญที่สุดของพรรคการเมืองไทย
โดยรวม คือ ความไม่สามารถเป็นตัวแทนประชาชนตามความแตกต่างของผลประโยชน์ อัตลักษณ์
ความเชื่อ หรืออุดมการณ์ (Social cleavages) ที่ชัดเจนและจับต้องได้ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
ชัดเจนว่าพรรคการเมืองไทยไม่ได้แสดงบทบาทมากพอที่จะช่วยจรรโลงประชาธิปไตย พรรคการเมือง
กลายเป็นส่วนหนึ่งของขั้วความขัดแย้งแตกแยกในสังคม ที่น ามาสู่เงื่อนไขของการรัฐประหารทั้งสอง
ครั้งหลัง คุณสมบัติของพรรคการเมืองที่จะแสดงบทบาทน าในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยและ
สนับสนุนการจรรโลงประชาธิปไตย คือ พรรคการเมืองจะต้องไม่น าความขัดแย้งระหว่างพรรค
การเมืองลงไปครอบง าความคิดประชาชน ให้เกิดความเกลียดชังระหว่างผู้สนับสนุน และพรรค
การเมืองต้องไม่น าความขัดแย้งทางการเมืองลงไปสู่ท้องถนน ต้องไม่น าประชาชนไปใช้เป็นเครื่องมือ
ในการเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองอันคับแคบเฉพาะตน