Page 170 - kpiebook65010

แนวทางและวิธีการวิเคราะห์
ผลกระทบทางสังคมในการตรากฎหมาย

อาศัยกระบวนการดังกล่าว และบุคคลที่รับตั้งครรภ์และให้กำเนิดเด็กผู้นั้น ซึ่งกฎหมายฉบับนี้
ประกาศใช้ในปี 2015 แต่เริ่มมีผลบังคับในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 และข้อบังคับที่ออกโดย

257
กฎหมายฉบับนี้เริ่มมีผลในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 โดยในชั้นของการร่างกฎหมายนั้น
Department of Justice and Equality เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำและนำเสนอร่างกฎหมาย

รวมทั้ง RIA ของร่างฉบับนี้

4.2.4.2 ทางเลือกที่นำมาวิเคราะห์

ในรายงานได้กำหนดทางเลือกที่นำมาวิเคราะห์ไว้เพียง 2 ประการ ได้แก่

๏ การคงสถานะเดิม (ไม่มีการแก้ไขกฎหมาย) ซึ่งทางเลือกนี้จะส่ง
ผลกระทบในทางลบต่อเด็กที่ใช้ชีวิตในครอบครัวซึ่งมีลักษณะแตกต่างไป

จากครอบครัวตามความเชื่อดั้งเดิม เช่น ครอบครัวที่คู่สามีภริยาเป็นเพศ
เดียวกัน ซึ่งในเมื่อคู่ชีวิตดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับตัวเด็ก

แล้ว ย่อมไม่อาจมีสถานะเป็นผู้ปกครองของเด็กตามกฎหมายได้ เป็นต้น

๏ การแก้ไขกฎหมายให้มีบทบัญญัติตามที่ระบุไว้ใน Children And
Family Relationships Bill 2015 ทางเลือกนี้จะเป็นการตอบสนอง

ความต้องการของเด็กที่ใช้ชีวิตในครอบครัวที่แตกต่างออกไป และยัง
สามารถหลีกเลี่ยงและลดต้นทุนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย

4.2.4.3 การวิเคราะห์ต้นทุน ผลประโยชน์ และผลกระทบ

ก) ต้นทุน

คาดการณ์ว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้เกิดต้นทุนกับบางครอบครัวที่จำเป็น
ต้องใช้เพื่อการร้องขอต่อศาลในส่วนที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง รวมถึง
ค่าใช้จ่ายในการบังคับตามคำสั่งศาล ซึ่งการยื่นคำร้องต่อ Circuit Court นั้นมีค่าใช้จ่ายประมาณ

130 ยูโร ส่วนการคัดสำเนาเอกสารมีค่าใช้จ่ายที่ 13 ยูโร และครอบครัวอาจมีต้นทุนในการดำเนินการ
ทางกฎหมายหากเกิดข้อพิพาทในชั้นศาลขั้น

257 Department of Health, ‘Children and Family Relationships Act 2015’ (2 March 2020)
<www.gov.ie/en/publication/e2bd0a-children-and-family-relationships-act-2015/>เข้าถึงเมื่อ 9 กันยายน

2564.

สถาบันพระปกเกล้า

158