Page 165 - kpiebook65010
P. 165

แนวทางและวิธีการวิเคราะห์
                                        ผลกระทบทางสังคมในการตรากฎหมาย





                              โดยสรุปแล้ว RIA ส่วนมากจะนำเอาวิธีการวิเคราะห์แบบ MCA ไปใช้
               ในขณะที่บางส่วนอาจใช้วิธีการวิเคราะห์แบบ Cost-Benefit หรือ Cost Effectiveness ซึ่งในเมื่อ

               ข้อเสนอเพื่อการออกกฎระเบียบนั้นจำเป็นต้องมีการจัดทำ RIA โดยละเอียด ดังนั้น การวิเคราะห์
               จึงควรใช้แนวทางการการให้น้ำหนักแบบ MCA โดยใช้วิธีการแบบ Cost-Benefit ประกอบกัน

               ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
                            ข) การวิเคราะห์แบบ Cost-Benefit Analysis (CBA)     250

                              แนวคิดหลักของวิธีการแบบ CBA คือ การพยายามกำหนดค่าของต้นทุน

               และผลประโยชน์ให้เป็นจำนวนเงิน ซึ่งในเมื่อมูลค่าที่เกี่ยวข้องได้ถูกกำหนดเป็นจำนวนเงินแล้ว
               ย่อมทำให้ข้อเสนอในเชิงนโยบายนั้นมีความคุ้มค่าอย่างเห็นได้ชัด หากจำนวนเงินที่เป็น

               ผลประโยชน์มีมากกว่าต้นทุน นอกจากนี้ ในกรณีที่ต้องเลือกระหว่างทางเลือกในการดำเนินการ
               ที่แตกต่างกัน จำนวนเงินย่อมเป็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อแปลงเป็นค่าสุทธิ
               ที่เป็นปัจจุบันแล้ว (Net Present Value) โดยพิจารณาประกอบกับอัตราการลดค่า (discount

               rate) ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดที่สำคัญของวิธีการนี้ คือ ค่าของต้นทุนหรือผลประโยชน์
               หลายประการก็ไม่สามารถที่จะกำหนดเป็นจำนวนเงินได้ง่ายนัก ทั้งนี้ ในการออกกฎระเบียบเรื่องที่

               มีผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญ หน่วยงานที่เสนอกฎระเบียบนั้นจะถูกบังคับให้ต้องใช้การวิเคราะห์
               แบบ CBA มาประกอบด้วยเสมอ

                              การหามูลค่าของต้นทุนและผลประโยชน์นั้น นอกจากการปรับลดค่าที่ได้

               เพื่อดูมูลค่าที่แท้จริงแล้ว ยังมีปัจจัยประการอื่นที่ต้องคำนึงถึงประกอบด้วย ได้แก่ 251

                                    ๏ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน (Risk and Uncertainty) ในโลก

                                      แห่งความเป็นจริงนั้น การจะคาดเดาถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดในอนาคต
                                      จากนโยบายที่ยังไม่ได้ถูกนำไปบังคับใช้นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้

                                      เนื่องจากผลลัพธ์ทั้งหลายย่อมขึ้นอยู่กับเหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
                                      ซึ่งหลายเหตุการณ์ก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้กำหนดนโยบาย
                                      ดังนั้น เนื้อหาของ RIA รวมทั้งวิธีการทั้งหลายที่นำมาใช้เพื่อกำหนด

                                      เนื้อหาของ RIA นั้น จำเป็นจะต้องสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอน
                                      เหล่านี้ ด้วยการนำเอาปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงและความไม่แน่นอน



                    250   ibid 24-25

                    251   ibid 25.

                                                สถาบันพระปกเกล้า

                                                     153
   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170