Page 132 - kpiebook65037
P. 132
131
3) หลักจริยธรรมบนพื้นฐานของหลักการ (Deontological
Approach)
จากข้อบกพร่องของแนวคิดอรรถประโยชน์นิยมที่มีปัญหา
ในการน�ามาปฏิบัติ เอ็มมานูเอล คานท์ (Emmanuel Kant) ได้เสนอแนวคิด
จริยธรรมที่เน้น หน้าที่ (Duty) หรือหลักการ (Principle) เป็นจริยธรรมเชิง
13
หน้าที่หรือหลักการ (Ethics of Duty or Principle) ตามแนวคิดของคานท์
สิ่งส�าคัญที่สุดในการตัดสินปัญหาทางจริยธรรม คือ การใช้หลักการในการ
ตัดสินปัญหาทั้งมวล เนื่องจากเขามองว่าหลักการต่างๆ มีความคงเส้นคงวา
ในการอธิบายมากกว่าการใช้หลักประโยชน์สุขของแต่ละบุคคล โดยไม่
ค�านึงถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและบริบททางสังคมของแต่ละพื้นที่
อีกทั้งยังสามารถน�ามาใช้อ้างอิงเทียบเคียงกันข้ามกาลเวลาได้เสมอ
เพราะเป็นหลักการสากลที่เป็นที่ยอมรับกันในสังคมทุกสังคมและวัฒนธรรม
แต่ในทางปฏิบัติ พบว่าหลักการนี้ อาจจะดูแข็งทื่อเกินไป ไม่ได้ค�านึงถึง
ความแตกต่างหรือความเสียเปรียบของกลุ่มคนบางกลุ่มที่เป็นผู้เสียเปรียบทาง
สังคม ได้รับโอกาสทางการศึกษา หรือเข้าถึงทรัพยากรที่ส�าคัญไม่เท่าเทียม
กับคนในเมืองหรือมีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่า ดังนั้น การปรับใช้เกณฑ์ที่ยึด
หลักการเป็นส�าคัญอาจจะต้องให้โอกาสส�าหรับคนที่มีต้นทุนในการแข่งขัน
เท่าเทียมกัน และอาจจะมีข้อยกเว้นใช้หลักการอรรถประโยชน์หรือหลักการ
อื่นๆ ประกอบในกรณีที่ต้องการให้โอกาสกับกลุ่มคนที่เสียเปรียบทางสังคม
13 ค�าว่า Deontology มาจากภาษากรีก Deon ลดรูปมาจากค�าว่า Deontos หมายถึง
ความผูกมัด ความจ�าเป็น ส่วนค�าว่า Logy หรือกรณีธรรม หมายถึง ค�าสอนทาง
จริยศาสตร์ที่ถือคุณค่าของการกระท�าใดๆ ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว ถูกหรือผิด ต้องถูกตัดสิน
โดยการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางศีลธรรมที่เป็นข้อผูกมัดมากกว่าที่จะตัดสินโดยผล
ที่ตามมาภายหลัง ไม่ว่าผลนั้นจะเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อตนเองหรือผู้อื่น โปรดดู
อัมพร ธ�ารงลักษณ์. (2551). “หลักจริยธรรมส�าหรับนักบริหารรัฐกิจ (Ethical Principles
for Public Administration)”. รัฐสภาสาร. ปีที่ 56 ฉบับที่ 7 (กรกฎาคม). น. 103.