Page 300 - kpiebook65064
P. 300
250 โครงการสังเคราะห์ข้อเสนอ
เพื่อเสริมสร้างการอภิบาลระบบยา
อย่างไรก็ตาม ผู้ให้สัมภาษณ์บางท่านก็เห็นว่าความล่าช้าในบางกรณีเป็นเรื่องที่
จำเป็นเพราะเป็นไปเพื่อความเข้มงวด โดยมองว่า “เท่าที่ทราบใน ASEAN เราเองใช้เวลานานกว่า
ทั้งหมด แต่ว่าค่อนข้างจะเยอะ เพราะต้องเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาอ่าน paper มีขั้นตอนและ
กระบวนการต่างๆ คราวนี้ถ้าจะทำให้เร็วขึ้น ในทางปฏิบัติเราก็อยากเห็น แต่ทาง อย. ก็ต้องเข้ม
เรื่องการศึกษาของเขา......ยกตัวอย่างมีตัวยาหนึ่งที่เราคิดค้น เป็นตัวยารักษาโรคได้ จนบัดนี้ก็ยังไม่
ผ่าน เพราะเขาจะขอข้อมูลเพิ่ม ทำให้โอกาสที่จะพัฒนายาไปก็จะเสียไป เพราะฉะนั้นข้อมูลบางที่
จะมาซัพพอร์ตก็ไม่พอ ก็ต้องผลิต paper มากขึ้น” 14
- อัตรากำลังและจำนวนทะเบียนตำรับยา
สำนักยา อย. คือหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านขึ้นทะเบียนตำรับยา ใน พ.ศ.
2555 มีจำนวนบุคลากรทั้งสิ้น 126 คน และเป็นหน่วยงานที่มีอัตรากำลังมากที่สุดใน อย. โดยมี
สัดส่วนบุคลากรร้อยละ 19.94 ต่อจำนวนบุคลากรทั้งหมดของ อย. ส่วนกลุ่มงานที่รับผิดชอบการ
ขึ้นทะเบียนยา คือ กลุ่มกำกับดูแลก่อนออกสู่ตลาด มีบุคลากรจำนวน 57 คน และถ้าพิจารณา
เฉพาะส่วนของงานยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์จากฝ่ายงานยาสามัญ งานยาใหม่ งานยาชีววัตถุ
15
มีเภสัชกรทำหน้าที่ขึ้นทะเบียนยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์เพียง 25 คนเท่านั้น นอกจากนี้ อย.
มีบุคลากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการอ่านตำรับยาซึ่งต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทางน้อย แม้ว่าจะ
ให้ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานอื่นภายใน อย. มาช่วยพิจารณาก็ยังไม่เพียงพอและจำเป็นต้องพึ่งพา
ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลท่านหนึ่งเห็นว่า จำนวนอัตรากำลังที่ไม่มาก
ทำให้การทำงานในปัจจุบันเน้นงานด้านธุรการมากกว่างานด้านวิชาการ ด้วยภาระงานที่เป็นอยู่
ต้องการกำลังคนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 400 คนเพื่อรองรับภาระงาน และ อย. ต้องจ้างลูกจ้างเหมา
บริการเพื่อช่วยทำงานเป็นหลักร้อยคน ด้วยเหตุนี้ อย. ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก
เข้ามาช่วยพิจารณาตำรับยา 16
นอกจากนี้ ด้านอัตรากำลังยังไม่มีการจำแนกอำนาจหน้าที่ตามความชำนาญเฉพาะ
ทางด้านวิชาการ เช่น นักเภสัชศาสตร์ (Pharmaceutical Scientist) นักเคมี (Chemist)
นักเคมีอินทรีย์ (Organic Chemist) หรือเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ (Medical Officer) แต่
ของประเทศไทยมักเรียกเจ้าหน้าที่โดยรวมว่าเป็น “เภสัชกร” เพียงอย่างเดียวตามสายงานในระบบ
ราชการ (เภสัชกรปฏิบัติการ เภสัชกรชำนาญการ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ เภสัชกรเชี่ยวชาญ)
ทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำหน้าที่เฉพาะทางอย่างเต็มที่ 17
เมื่อพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนตำรับยาพบว่าการขึ้นทะเบียนทั้งเพื่อ
ผลิตและนำเข้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีจาก 788 ตำรับใน พ.ศ. 2546 เป็น 1,338 ตำรับใน พ.ศ.
2555 แต่ถ้าเมื่อพิจารณาเทียบกับจำนวนการขึ้นทะเบียนยากับจำนวนเภสัชกรที่ทำหน้าที่
ขึ้นทะเบียนยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ จำนวน 25 คน ใน พ.ศ. 2555 ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนยา
14 ผู้ให้สัมภาษณ์ N, วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557
15 โปรดดูในภาคผนวก ข.
16 สัมภาษณ์, ผู้ให้สัมภาษณ์ I. J. และ K, วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557
17 สัมภาษณ์, ผู้ให้สัมภาษณ์ C, วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556
บทที่ 7
สถาบันพระปกเกล้า