Page 89 - kpi12626
P. 89
การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น:
คู่มือสำหรับนักบริหารงานท้องถิ่นในยุคใหม่
สาธารณะและการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตของชุมชนท้องถิ่นอยู่ในระดับ
ที่ต่ำเกินไปหรือว่าน้อยกว่าปริมาณความต้องการของประชาชนหรือไม่
ในกรณีเช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นจึงควรประเมินความยั่งยืนทางการเงินในระยะ
ยาวควบคู่ไปกับความเพียงพอของการให้บริการสาธารณะ (ซึ่งเป็นเนื้อหา
หลักในบทต่อไป) และหากพบว่าการมีภาระหนี้ในระดับต่ำหรือการไม่มีภาระ
หนี้เกิดขึ้นเพราะว่าท้องถิ่นยังมิได้จัดบริการสาธารณะหรือลงทุนพัฒนา
ชุมชนท้องถิ่นให้ทั่วถึงอย่างเพียงพอ ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถพิจารณาถึง
การขยายขอบเขตหรือเพิ่มคุณภาพของการจัดบริการสาธารณะและ/หรือการ
ขยายโครงการลงทุนเพื่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของเมืองด้วยการ
ก่อหนี้ผูกพันต่างๆ ได้มากขึ้นต่อไป เป็นต้น
ความเป็นไปได้ประการต่อมา หากพบว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นมี
ภาระหนี้ระยะยาวสูงมากเกินไปแล้ว อาทิ มีภาระหนี้ระยะยาวต่อประชากร
ราว 4,000 บาท มีสัดส่วนรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ (debt service ratio) สูงถึง
ประมาณร้อยละ 25 ของงบประมาณ ฯลฯ ผู้บริหารท้องถิ่นก็จะต้องพิจารณา
ว่าควรปรับเปลี่ยนแนวนโยบายการจัดบริการสาธารณะ การลงทุน หรือการ
บริหารจัดการหนี้สินต่างๆ ที่มีอยู่เช่นไรเพื่อป้องกันมิให้เกิดสภาวะของการมี
หนี้สินล้นพ้นตัว ในขณะที่ท้องถิ่นยังคงมีขีดความสามารถในการชำระหนี้ได้
ตามกำหนด และมิได้ก่อให้เกิดภาระในการเตรียมงบประมาณเพื่อการชำระ
หนี้ที่สูงเกินไปจนส่งผลให้งบประมาณสำหรับการพัฒนาเหลือน้อยลง
ในกรณีเช่นนี้ กรอบความยั่งยืนทางการคลัง (fiscal sustainability framework)
ของรัฐบาล เกี่ยวกับขนาดของรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ (Debt Service
15
Ratio) ที่ไม่ควรสูงเกินกว่าร้อยละ 15 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี อาจ
ใช้เป็นแนวทางในการกำหนดขนาดของภาระรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ระยะ
ยาวในระดับท้องถิ่นได้ต่อไป
15 รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากกรอบความยั่งยืนทางการคลัง จัดทำโดยสำนักงาน
เศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง อ่านได้ที่ http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=
Content&file=contentview&contentID=CNT0000777 (เข้าดูวันที่ 29 กรกฎาคม 2554)