Page 161 - kpi15428
P. 161
ชุมชนกับสิทธิ ในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2. นโยบายและการปฏิรูปกฎหมาย มีกฎหมายกำหนดการห้ามใช้
พื้นที่ป่าโดยเด็ดขาด กล่าวคือ ห้ามมีการตัดไม้หรือการแปรสภาพป่าให้เป็น
เสื่อมโทรมที่ทำให้ท้ายที่สุดแล้วป่าเสื่อมโทรมถูกนำไปสู่กระบวนการตาม
ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งที่ดินนั้นถูกทำให้กลายเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคล
หรือนิติบุคคลในท้ายที่สุด ในขณะเดียวกันกฎหมายนี้กำหนดประเภทการใช้
ทรัพยากรป่าไม้โดยไม่เป็นไปเพื่อเศรษฐกิจแต่เป็นไปเพื่อการดำรงชีพของ
ชุมชน ซึ่งการกำหนดขอบเขตการใช้ทรัพยากรป่าไม้ของชุมชนอาจใช้
กระบวนการประชาธิปไตยในการกำหนดรายละเอียดเพื่อให้สอดคล้องกับ
ความแตกต่างในแต่ละพื้นที่ กฎหมายเพียงกำหนดแนวทางกว้างๆ เพื่อ
ป้องกันการฉวยประโยชน์เฉพาะตนหรือพวกพ้อง นอกจากนี้ นโยบายที่
พยายามเพิ่มพื้นที่ป่าจะต้องมีกำหนดแนวทางของพื้นที่ที่จะประกาศเป็นพื้นที่ป่า
อย่างเหมาะสม เช่น ระยะเวลาที่ถือครอง กรรมสิทธิ์ การเยียวยา เพื่อไม่ให้
ทับซ้อนที่ดินของชุมชนที่มีอยู่เดิม ป่าที่มีสภาพเสื่อมโทรมอาจกำหนดให้เป็น
พื้นที่ป่าของชุมชนโดยให้ชุมชนช่วยกันฟื้นฟูสภาพและมีการออกโฉนดเป็น
ลักษณะของโฉนดป่าชุมชนที่ไม่มีใครได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่ชุมชนจะ
ช่วยกันดูแลรักษาและส่งเป็นมรดกสืบทอดให้ลูกหลานในชุมชนได้ใช้
ประโยชน์และดูแลต่อไป รูปแบบการใช้ประโยชน์ของชุมชน เช่น การใช้
พืชสมุนไพรเพื่อเป็นยารักษาโรค การนำมาเป็นอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้
กำหนดประเภทกิจกรรมเพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากรป่าไม้ในเชิงธุรกิจของ
คนใดคนหนึ่งโดยขาดการดูแลป่า รวมทั้งห้ามการแผ้วถางป่าเพื่อการเกษตร
กรรมหรืออื่นๆที่จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของป่า นอกจากนี้
การจัดสรรทรัพยากรตามนโยบายกระจายการถือครองที่ดินควรออกเป็น
โฉนดรวมที่ห้ามมีการซื้อขายแต่ให้ชุมชนใช้ที่ดินนั้นร่วมกัน
ข้อดี มีข้อกำหนดชัดเจนในการอนุรักษ์ป่าซึ่งเป็นทรัพยากรที่เกี่ยวโยง
กับวิถีชีวิตชุมชน และมีแนวทางที่ทำให้การใช้ประโยชน์จาก
ทรัพยากรธรรมชาติไม่ตกอยู่กับกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
1