Page 159 - kpi15428
P. 159
ชุมชนกับสิทธิ ในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ต่อสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรป่าไม้หลายประการ ได้แก่ การให้
เอกชนทำสัมปทานป่าไม้ การพยายามขยายพื้นที่ป่าโดยการประกาศพื้นที่
ป่าทับซ้อนที่ทำกินของชุมชน การเลือกดำเนินการตามบทลงโทษตาม
กฎหมายเฉพาะคนเล็กคนน้อย นอกจากนี้การประกาศพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม
ยังเป็นการทำลายป่าไม้ที่มีสภาพดีให้กลายเป็นทรัพย์ส่วนบุคคลตาม
ประมวลกฎหมายที่ดิน (ชัยพงษ์ สำเนียง, 2012; มูลนิธิสืบนาคะเสถียร,
2013) และโดยส่วนใหญ่แล้วประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงก็จะไม่
สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวได้ เมื่อไม่มีที่ดินก็เกิดเป็น
ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา (ชัยพงษ์
สำเนียง, 2012) ขณะที่สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีส่งผลทางลบและทาง
บวกต่อสิทธิชุมชน โดยในอดีต เทคโนโลยีมีผลให้การตัดไม้ทำลายเป็นไป
เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นซึ่งกระทบต่อพื้นที่และการดำรงอยู่ของชุมชนแต่
เมื่อมีปัจจัยอื่นๆ เช่น กระแสการเรียกร้องเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้ตลอดจน
ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้ทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่สร้างสิ่งอื่น
มาชดเชยการใช้ไม้จากป่า และมีความพยายามเสาะหารูปแบบการจัดการ
ป่าไม้ที่เหมาะสมทั้งเชิงเทคนิคและเชิงสังคม ซึ่งการจัดการป่าไม้โดยชุมชน
ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของเทคโนโลยีในความหมายกว้างๆ ซึ่งมักถูกเรียก
ในนามของภูมิปัญญา ส่วนสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศ มีผลทั้งทางลบ
และทางบวกต่อสิทธิชุมชนในการบริหารจัดการป่าไม้ เช่น สภาพแวดล้อม
ทางการค้ามีผลทางอ้อมทั้งทางบวกและทางลบต่อสิทธิชุมชนเช่นกัน โดยผล
ทางลบส่วนใหญ่เป็นผลสืบเนื่องจากอดีตจนถึงปัจจุบันที่กระแสทุนนิยม
ทำให้ทุนเอกชนมีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศมากกว่าชุมชน
กระแสเศรษฐกิจเชิงเดี่ยวมีอิทธิพลต่อการออกนโยบายพืชเศรษฐกิจ
เชิงเดี่ยวซึ่งมีผลต่อการแผ้วถางพื้นที่ป่าเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
โดยชาวบ้านและกลุ่มทุน ขณะเดียวกันกระแสเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์
ในนานาประเทศได้ส่งผลให้สิทธิชุมชนได้รับความสำคัญในบริบทการจัดการ
ป่าไม้ เช่น สิทธิชุมชนในการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรที่มีความ
1 1