Page 202 - kpi15476
P. 202
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15 201
ปกครอง ซึ่งประกอบอาชีพต่างๆ เพื่อผลิตสินค้าและบริการให้แก่รัฐ สำหรับในส่วนของผู้ปกครอง
นั้น เพลโตเน้นว่าจะต้องมีลักษณะเป็นนักปรัชญา นักปกครองมีหน้าที่ออกกฎหมายและกำหนด
นโยบายของรัฐ (พระธรรมโกศาจารย์, 2552, น.208) ในแง่นี้ เมื่อพิจารณาตามหลักความคิด
โดยทั่วไปแล้ว ก็นับได้ว่า เพลโตเป็นบุคคลอีกผู้หนึ่งที่มีความคิดเฉียบแหลม เพราะเขาได้เน้นการ
เลือกสรรคุณลักษณะของนักปกครอง ที่ถือเป็นผู้ส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางของรัฐ หาก
นักปกครองไม่ดี ก็ย่อมที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในรัฐได้ ดังงาน
เขียนของเพลโตตอนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการที่เขาให้ความสำคัญกับการใช้ปรัชญาปกครองรัฐว่า
“ลักษณะที่รัฐซึ่งมีปรัชญาเป็นเครื่องปกครองจะพ้นความหายนะได้ เพราะเรื่องสำคัญยิ่งทั้งปวง
เป็นเรื่องที่ต้องเสี่ยงจริง ดังที่มีคำพังเพยกล่าวไว้ว่า สิ่งที่ดีย่อมยาก..” (ปรีชา ช้างขวัญยืน, 2523,
น.252)
หลังจากเราทราบแล้ว เพลโตได้ให้ความสำคัญกับการใช้ปรัชญาในการปกครองรัฐมาก
ถึงขนาดที่เขากำหนดคุณสมบัติของนักปกครองว่าจะต้องเป็นนักปรัชญา ขั้นต่อมาเราคงจำเป็น
ต้องตีความคำว่า “ปรัชญา” ที่เพลโตกล่าวถึงว่าหมายถึงอะไรกันแน่ เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นภาพ
คุณลักษณะที่แท้จริงของนักปกครองตามอุดมคติของเพลโต สำหรับคำว่าปรัชญาในความหมาย
ของเพลโตนั้น น่าจะหมายถึงความมีเหตุผล เนื่องจากตามความคิดของเพลโต รัฐมีรากฐานมา
จากเหตุผล กฎหมายของรัฐจึงต้องเป็นสิ่งที่มีเหตุผล และกฎหมายที่มีเหตุผลก็จะต้องสร้างขึ้น
โดยคนที่มีเหตุผลเท่านั้น นั่นก็คือ นักปรัชญา (ดับบลิว. ที. สเตซ, 2514, น.127) โดยนอกจาก
เพลโตจะได้เน้นให้ผู้ปกครองมีความเป็นนักปรัชญา ในการการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วไป
เพลโตยังได้ให้ความสำคัญกับการสร้างบุคคลที่มีเหตุผลมาก จนถึงขนาดที่เขาได้มีการออกแบบ
วงจรชีวิตของคนที่ควรจะเป็น ซึ่งมีการครุ่นคิดเกี่ยวกับปรัชญาเป็นหลักสำคัญของวงจรชีวิต
ดังข้อเขียนของเขาตอนหนึ่งที่ว่า
“...เมื่อยังหนุ่มๆ อยู่ก็ต้องศึกษาอบรมตามที่เหมาะแก่คนหนุ่ม เมื่อโตแล้วก็ต้อง
รักษาร่างกายให้แข็งแรง เหล่านี้ก็เพื่อเป็นรากฐานสำหรับการใช้สติปัญญาต่อไป เมื่ออายุ
มากขึ้น วิญญาณแก่กล้าเต็มทีแล้วก็ต้องใช้มันให้หนักยิ่งขึ้น และเมื่อกำลังวังชาถดถอยลง
ได้ใช้ชีวิตในทางการเมืองและการทหารมาแล้ว ก็ควรได้รับการเลี้ยงดู ไม่ต้องทำงานอื่น
นอกจากคิดปรัชญาอย่างเดียวจึงจะมีความสุข และเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง ก็จะได้รับการ
สวมมงกุฎให้ชีวิตที่ได้ดำเนินมาแล้ว คือมีจุดหมายปลายทางอันเหมาะสมในปรโลก” (ปรีชา
ช้างขวัญยืน, 2523, น.252)
จากข้อเขียนของเพลโตข้างต้น ถือเป็นสิ่งที่เน้นย้ำให้เห็นถึงการที่เพลโตให้ความสำคัญกับ
ปรัชญา หรือเหตุผลมาก ไม่ว่าจะเป็นในระดับนักปกครองหรือประชาชนทั่วไป โดยในส่วนของ
นักปกครองนั้น เพลโตได้เน้นว่า สิ่งที่นักปกครองต้องมีคือ ปัญญา ซึ่งหากนำคำว่า ปรัชญา และ
คำว่า ปัญญา ที่เพลโตได้กล่าวไว้มามองร่วมกัน ก็จะกล่าวได้ว่า คุณสมบัติของความเป็น
นักปกครองที่เพลโตต้องการนั้นเป็นสิ่งที่มีความลึกซึ้งไม่น้อยไปกว่าแนวความคิดแบบธรรมราชา
ของโลกตะวันออก เนื่องจากปรัชญา (เหตุผล) และปัญญานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติที่ เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย
มนุษยชาติทั้งหลายต่างต้องการแสวงหาอยู่แล้ว และอาจเป็นเพราะเหตุนี้ เพลโตจึงได้มีการ