Page 247 - kpi15476
P. 247
24 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
เพียงนั้น และบุตรต้องทำตามทุกอย่างโดยไม่สามารถทัดทานได้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
จากผลของคำพูด เนื่องจากขงจื่อจะมองว่าบิดามารดาอาจกระทำผิดได้เช่นกัน ซึ่งบุตรก็สามารถ
ทัดทานคำกล่าวของมารดาด้วยความนบนอบ โดยเฉพาะการกระทำที่ถือว่าขัดต่อขนบธรรมเนียม
จารีต ซึ่งไม่ถือว่าอกตัญญูแต่อย่างใด
ประเด็นที่สาม: เปรียบเทียบประเด็นการรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดกับการอำพราง
ความผิดของคนในครอบครัว
ในบางตัวบทของมหาภารตยุทธ จะเห็นได้ว่าท้าวธฤตราษฎร์ได้แสดงการกระทำในลักษณะ
ที่แสดงถึงการรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของทุรโยธน์ซึ่งเป็นบุตรของตนเอง ดังเห็นได้จาก
“เมื่อครั้งที่ฝ่ายเการพได้ร่วมเห็นชอบให้ทุหศาสันกระทำการข่มเหงหญิงผู้หมดทาง
ต่อสู้อย่างนางเทฺราปที โดยมหามติวิทูรเหลือที่จะอดทนได้ต่อไปจึงรุดไปกระซิบท้าวธฤตรา
ษฎร์ว่า‘การกระทำขององค์ทุรโยธน์และพรรคพวกครั้งนี้ ผิดทำนองคลองธรรมและ
ประเพณีอันดีงามเป็นอย่างยิ่ง ขอพระองค์ทรงยับยั้งการกระทำของโอรสเสียเดี๋ยวนี้โดยเด็ด
ขาด มิฉะนั้นแล้ว แผ่นดินหัสตินาปุระจะลุกเป็นไฟโดยแน่แท้’ แต่ท้าวธฤตราษฎร์ทรงฟัง
แล้วไม่ตรัสอะไรต่อการกระทำที่ผิดทำนองคลองธรรมดังกล่าว” (กรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย,
2550:88)
หรือในอีกตัวบทหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการรู้เห็นเป็นใจและยังร่วมมือกับบุตรในการกระทำผิดเมื่อ
ครั้งที่พี่น้องฝ่ายปาณฑพแพ้พนันจากการเล่นสกากับศกุนิครั้งแรก แล้วท้าวธฤตราษฏร์สำนึกและคืน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เดิมพันให้แก่ฝ่ายปาณฑพ แต่ยังไม่ทันที่ฝ่ายปาณฑพจะออกจากเมืองหัสตินาปุระ
ท้าวธฤตราษฏร์ก็ทรงเปลี่ยนพระทัยมาเข้าข้างบุตรเช่นเดิมอีก ดังเห็นได้จาก
“ท้าวธฤตราษฎร์มีบัญชาให้นายสารถีประติการีบไปตามพี่น้องปาณฑพให้กลับมาเล่น
สกากันอีกครั้งทั้งที่ทราบดีว่าฝ่ายเการพซึ่งเป็นลูกของพระองค์ที่เป็นฝ่ายท้าพนันสกา
มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่แรก...โดยทุรโยธน์อ้างต่อท้าวธฤตราษฎร์ ผู้เป็นบิดาว่าเพื่อความ
อยู่รอดปลอดภัยของนครหัสตินาปุระและราชตระกูลเการพ...แผนการนี้จะสำเร็จได้ ก็ต้อง
เชิญยุธิษฐิระกับน้องๆให้กลับมาเล่นสกากับศกุนิใหม่โดยมีเงื่อนไขการเล่นคือใครแพ้ต้องไป
อยู่ป่า โดยท้าวธฤตราษฎร์เห็นด้วยกับคำพูดของลูก…แม้ว่านางคานธารีจะได้คัดค้านเพื่อให้
พี่น้องสองตระกูลได้สิ้นความเป็นศัตรูกันก็ตาม...” (กรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย, 2550:91)
จากตัวบทแรก ย่อมแสดงให้เห็นว่าการกระทำของบิดานั้นเท่ากับรู้เห็นเป็นใจในการกระทำ
ของบุตรที่ผิดต่อแบบแผนประเพณีที่ดีงามมาแต่อดีตโดยรังแกหญิงผู้หมดทางสู้ ถือเป็นการ
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย ภายในครอบครัวเป็นหลักใหญ่โดยรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำผิดของบุตรที่เห็นอย่างชัดเจนว่า
สนับสนุนให้บุตรกระทำสิ่งที่ขัดต่อจารีตในอดีต ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่าหากถือเอาความสัมพันธ์
ขัดต่อหลักการอยู่ร่วมกันของสังคมโดยไม่เข้าห้ามปรามแล้ว สังคมจะอยู่ได้อย่างไร ซึ่งในที่นี้
เป็นการตั้งประเด็นคำถามที่เป็นสถานการณ์เฉพาะที่บิดามีโอกาสหรือความสามารถที่จะเข้า
ห้ามปรามระหว่างที่บุตรกระทำผิดได้แต่ไม่ทำ ดังที่มหามติวิทูรพยายามเสนอให้ผู้เป็นบิดา