Page 383 - kpi15476
P. 383
3 2 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 15
ปีกซ้ายในพรรคก้กมินตั๋งเองแต่ไม่เข้มแข็งและไม่ได้รับการสนับสนุนจากสตาลินหัวหน้าพรรค
คอมมิวนิสต์ในโซเวียต แต่พวกชาวนาจำนวนมากในจีนเริ่มเชื่อถือในคำปราศรัยของผู้นำขบวนการ
คอมมิวนิสต์จีนมากขึ้นแล้ว
เหตุการณ์ในจีนส่งผลกระทบทั้งทางทางการโยกย้ายถิ่นของชาวจีนที่เข้ามาพึ่งพระบรม
สมภารในไทยเพิ่มมากขึ้น และจิตวิทยาสังคมกรเมืองของไทยอย่างมากด้วย
3. พระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 7 ด้านการวางรากฐาน
พัฒนาสถาบันทางเศรษฐกิจและสังคม
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าทรงครองราชย์ในระยะสั้นมาก คือ 9 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468
– 2484 (1926 - 1935) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองถาโถมเข้ามาจนรัฐบาล
ของพระองค์ต้องทุ่มเทไปในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเหล่านั้น นอกจากนี้ พระสุขภาพของพระองค์
ก็ไม่ดีต้องเสด็จไปผ่าตัดพระเนตรที่ต่างประเทศด้วย ดังนั้น ถ้ามองอย่างผิวเผินก็จะคิดว่า ไม่น่า
จะทรงมีเวลาสร้างสรรค์ผลงานพระราชกรณีกิจที่จะเป็นการวางรากฐานในด้านสังคมและ
เศรษฐกิจได้
แต่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ทรงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศในทุกๆ
ด้านเวลา 9 ปีที่ทรงครองราชย์นั้น (การนับ ค.ศ. กับ พ.ศ. อาจลักลั่นกันเพราะไทยในสมัยนั้น
ยังใช้วันขึ้นปีใหม่ในเดือนเมษายน) เป็นช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเพิ่งจะยุติลง
(ปี ค.ศ.1918) และเหตุการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจทั่วโลกแปรปรวนไปหมด นอกจากนี้ยังเกิด
เหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ที่กำลังที่ก่อตัวและทวีความรุนแรงจนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
(ปี ค.ศ. 1939) จึงนับเป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน ไหวแปรง่าย นำไปสู่การผกผันทั้งทางการเมือง
และสังคมเศรษฐกิจทั่วโลก เช่นการล่มสลายของจักรวรรดิใหญ่ๆ ในยุโรป กระแสประชาธิปไตย
แผ่กระจาย ประเทศต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนทางโครงสร้างการเมืองและสังคมเศรษฐกิจอย่าง
รวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อกันและกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก
และประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบนั้นด้วย
แม้จะทรงขึ้นครองราชย์โดยที่ไม่ได้ทรงคาดคิดมาก่อนล่วงหน้า และแม้จะขึ้นครองราชย์ใน
ช่วงที่เหตุการณ์รอบข้างที่รุมล้อมถาโถมเข้ามาจนแทบจะตั้งพระองค์ไม่ติด โดยเฉพาะวิกฤติ
เศรษฐกิจที่โหมรุมเร้าบีบคั้นหนัก เป็นตัวกระตุ้นเร่งวิกฤตทางการเมืองซึ่งได้ตั้งเค้ามานานตั้งแต่
รัชกาลก่อนแล้วให้ระเบิดขึ้น แต่พระราชกรณียกิจของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ตามที่มีบันทึกไว้
เอกสารประกอบการประชุมกลุ่มย่อย ก) การปรับเปลี่ยนพื้นฐานในด้านความคิด หรือความเคยชินกับธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ ที่
อย่างค่อนข้างละเอียดในจดหมายเหตุรัชกาลที่ 7 นั้น แสดงให้เห็นว่า ได้ทรงพยายามปูพื้นฐาน
การพัฒนาสังคมไทยที่สำคัญยิ่งไว้สองลักษณะ คือ
สืบต่อกันมาหลายด้านที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนใหม่ในกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก